ทริคการลงทุนด้านสุขภาพให้ครบมิติแบบ New Normal
เหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ปะทุขึ้นในปีนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ต้องปรับตัว ใช้ชีวิตวิถีใหม่หรือที่เรียกกันว่า New Normal ซึ่งหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือการหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากกว่าเดิม ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดียิ่งกว่าหากเรารู้ทริคและเทคนิคในการดูแลสุขภาพให้ครบทุกมิติ และรู้ว่าควรลงทุนในจุดไหนบ้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ดูแลสุขภาพ..ต้องลงทุน
สุขภาพก็เหมือนกับการทำธุรกิจใดๆ หากต้องการผลตอบแทนที่ดีก็ต้องมีการลงทุน โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับตัวเรา เรามีไลฟ์สไตล์แบบไหน เป้าหมายในชีวิตคืออะไร ลองใช้เวลากับการประเมินตัวเอง ก็จะช่วยให้เราดูแลสุขภาพได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
สุขภาพด้านไหนบ้างที่เราควรดูแล?
สุขภาพกาย เป็นเรื่องที่เหมือนจะง่ายแต่ทำยาก เพราะถึงแม้หลักการจะมีอยู่เพียงไม่กี่ข้อ แต่การจะทำไปให้ได้ตลอดนั้นดูจะเป็นงานที่หนักอยู่ทีเดียว มาผ่อนเรื่องหนักให้เป็นเบาด้วยทริคตามนี้
1. ลงทุนเวลา
(ในช่วงเริ่มต้น) ค้นหารูปแบบออกกำลังที่ชอบ หลายๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร บางทีก็แค่ตามเพื่อนไปหรือลองทำสิ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น แต่ก็ทำได้ไม่กี่ครั้งก่อนเลิกไป จึงอยากแนะนำให้ทดลองหลายๆ ประเภทดูก่อน แล้วเลือกแบบที่ชอบไว้สัก 2-3 แบบไว้สลับสับเปลี่ยนยามเบื่อก็เป็นแผนที่เยี่ยม
(ถาวร) มีเป้าหมายชัดเจน ว่าในแต่ละวันจะแบ่งเวลามาออกกำลังกายกี่นาที โดยอาจมีการปรับตารางตามความสะดวก เช่น ถ้ารู้ว่ามีวันที่จะไม่ว่าง ก็เกลี่ยเวลาออกกำลังไปยังวันอื่นๆ ในสัปดาห์นั้นๆ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ฝืนมากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกล้า ไม่มีกะจิตกะใจจะทำ จนทลายแผนที่วางไว้ระยะยาวได้
2. ลงทุนกับอุปกรณ์คุณภาพดี
เมื่อมีรูปแบบการออกกำลังที่ชอบและคิดว่าจะทำไปได้ตลอดรอดฝั่งแล้ว การลงทุนกับอุปกรณ์ที่ดีเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้ออกกำลังได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย ยังคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเพราะใช้ได้นาน ไม่ต้องคอยซื้อมาเปลี่ยนบ่อยๆ อีกด้วย
สุขภาพใจ การเปลี่ยนแปลงเป็นสาเหตุหนึ่งของความวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเราโดยไม่รู้ตัว จะดีกว่าไหมหากเรามีวิธีดูแลใจให้อยู่ในสภาพที่ดีทุกๆ วัน
1. ลงทุนกับการพักผ่อน เหนื่อยจากงานมาหนัก ก็พักไปทำกิจกรรมที่เราชอบบ้าง หรือเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ รีเซ็ตจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ จำนวนชั่วโมงกำลังพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ในสภาพแวดล้อมเหมาะสมที่จะทำให้หลับลึก ก็จะช่วยฟื้นฟูจิตใจของเราได้อีกทางหนึ่ง
2. ลงทุนกับตัวเอง บ่อยครั้งที่เราทุ่มเทให้กับสิ่งรอบกาย จนลืมใส่ใจตัวของเราเอง หมั่นตรวจสอบตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าสุขภาพใจของเรายังโอเคอยู่ไหม ด้วยการทบทวนอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน หากมีความผิดปกติติดต่อกันเป็นเวลานานก็ควรหาทางแก้ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะมีผลต่อสุขภาพกายเช่นกัน
3. ลงทุนกับการสื่อสาร เคยไหม? เวลาเจอปัญหาที่เราคิดว่าจัดการเองได้ แต่เรื่องนั้นๆ กลับวนเวียนอยู่ในหัวไม่ไปไหน การหาทางออกโดยการระบายพูดคุยก็ถือเป็นเทคนิคหนึ่ง โดยคู่สนทนาของเราอาจเป็นเพื่อนที่ไว้ใจหรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาดังกล่าวอาจไม่ได้รับการแก้ไขในทันที แต่สภาพจิตใจของเราจะพร้อมเผชิญปัญหานั้นมากขึ้น
สุขภาพเงิน คือสุขภาพอีกด้านหนึ่งที่ขาดการดูแลไปไม่ได้ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
1. ลงทุนศึกษาเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะดูแลสุขภาพด้านใด ก็ควรเริ่มต้นจากการศึกษาก่อนว่าวิธีไหนที่ใช่เรามากที่สุด ในเรื่องการเงินก็คือการสำรวจช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจ ว่าช่องทางไหนที่เหมาะกับสภาพการเงิน ตรงกับความต้องการ และอยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้ เช่น การฝากประจำ การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรือตราสารหนี้ ฯลฯ โดยอาจเริ่มจากการอ่านบทความออนไลน์ อ่านหนังสือ ฟัง Podcast เพื่อให้มีความรู้พื้นฐาน จนเมื่อรู้และตัดสินใจได้แล้วว่าจะลงทุนด้านไหน ก็สามารถเลือกเรียนคอร์สเฉพาะทาง เรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม เพื่อให้การลงทุนนั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
2. ลงทุนป้องกันความเสี่ยง ถึงแม้เราจะสามารถคอนโทรลหลายๆ อย่างให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาด้วย ตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากๆ ก็คือการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบไปยังหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจและการเงินนั่นเอง ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท ควรเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดยคำนวณว่าจะให้เงินส่วนนี้จะสามารถใช้ไปได้นานแค่ไหนนั้นอาจขึ้นอยู่กับภาระความรับผิดชอบและความคล่องตัวของแต่ละบุคคล ทั้งนี้หากพอมีกำลังก็แนะนำให้ทยอยทำประกันต่างๆ เก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันภัย และประกันชีวิต ก็จะช่วยลดความเสียหายลง คงสุขภาพทางการเงินให้มีสภาพไหลลื่น ไม่ชะงักจนถึงขั้นโคม่า
3. ลงทุนผ่านเทคโนโลยี ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ทำให้สมัยนี้การลงทุนทำได้ง่ายขึ้นมาก ธุรกรรมต่างๆ สามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เช่น หากอยากลงทุนในกองทุน ก็ไม่ต้องออกไปข้างนอกติดต่ออะไรให้วุ่นวายเสียเวลา จัดการการลงทุนผ่าน Application ได้อย่างสะดวกสบาย อย่างใน Application Principal TH ที่เราสามารถใช้ฟังก์ชั่นประเมินความเสี่ยง ตั้งเป้าหมายการลงทุน และเปิดบัญชีออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อการซื้อ-ขาย สับเปลี่ยนกองทุนได้เลย เรียกได้ว่าเข้าแอปเดียวจัดการได้หมด
หากสนใจคลิกเพื่อดาวน์โหลดไปใช้กันได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้
iOS > https://apps.apple.com/th/app/principal-th/id1481176177
Android > https://play.google.com/store/apps/details?id=th.principal.principalth&hl=en
ทั้งนี้อย่าลืมพิจารณาการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ เฝ้าระวังภาวะตลาดผันผวนด้วยล่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วถึงแม้จะอยู่ในภาวะดังกล่าวก็ยังสามารถลงทุนได้นะ เพียงแต่เราต้องมองหาโอกาสและมีกลยุทธ์ที่ดีในการลงทุน และหากกำลังมองหาว่าจะลงทุนอะไรดีในเดือนที่เหลือของปี 2020 นี้ สามารถศึกษาข้อมูลจากพรินซิเพิลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.principal.th/th/Wealthy-Thai-PRINCIPAL-TDIF/PRINCIPAL-iBALANCED
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน