สถานการณ์ลงทุนในประเทศอาเจนตินา และกองทุน PRINCIPAL GTR
ในช่วงที่ผ่านมาเชื่อว่านักลงทุนจำ นวนไม่น้อยที่ได้รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศ Argentina อาจเกิดความกังวลหลังประธานาธิบดี Mauricio Macri ผู้ซึ่งวางรากฐานการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองอย่างมีวินัยนับแต่เข้ารับตำแหน่งในช่วงปี 2015 - ปัจจุบันนั้น แพ้คะแนน Primary Vote ในวันที่ 11 ส.ค. 2019 ให้แก่นาย Alberto Fernández จากฝั่ง Nationalist Peronist Movement รัฐบาลในช่วงปี 2007-2015 ที่ชูนโยบายปรับเพิ่มค่าแรงและสวัสดิการบำนาญผู้เกษียนอายุ การพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อหลังปรับตัวเพิ่มราว 55% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงนโยบายกระตุ้น การบริโภค การผลักดันการต่อต้านข้อตกลงเงินช่วยเหลือจาก IMF ในเงื่อนไขปัจจุบัน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของ Argentina ในระยะยาว
แหล่งข้อมูล: Wall Street Journal 12 ส.ค. 2019
ยิ่งไปกว่านั้นการที่นาย Macri ได้ประกาศใช้นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า ควบคุมราคานํ้ามันเชื้อเพลิง และอาหาร รวมถึงการชูนโยบายช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็ก เพิ่มโบนัสแก่พนักงานภาครัฐเพื่อช่วยพยุงฐานเสียงของตนเองหลังแพ้การเลือกตั้ง Primary Vote นั้นยิ่งสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อจุดยืนของเขาด้วย
ผลกระทบดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้จากการอ่อนค่าของค่าเงิน Argentina Peso (ARS) ที่อ่อนค่าอย่างรุนแรง โดยในวันศุกร์ที่ 9 ส.ค. 2019 ค่าเงิน USD/ARS อยู่ที่ 45.3134 และหลังจากที่ผล Primary Vote ออกมาในวันอาทิตย์ที่ 11 สค. 2019 ที่ผ่านมา ค่าเงิน ARS อ่อนค่ามากสุดในวันที่ 12 ส.ค. 2019 ที่ USD/ARS 61.9987 โดยหลังจากนั้นธนาคารกลาง Argentina ได้ใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศออกมารองรับ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วน ใหญ่คาดว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ Argentina อาจลดลงกว่า $1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงกว่า 20% เลยทีเดียว
สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความจำเป็นให้แก่รัฐบาล Argentina ที่จะต้องออกประกาศยืดอายุพันธบัตรระยะสั้นในช่วงปลายเดือน ส.ค. 2019 เพื่อลดแรงกดดันทางการเงินในช่วงปี 2020 ถึง 2023 ซึ่งการยืดอายุจะไม่มีการทำ hair cut ที่จะกระทบต่อเงินต้น และดอกเบี้ย รวมถึงจะมีการเจรจาต่อรองกับ IMF ถึงเงินช่วยเหลือที่ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ $5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ Argentina ในปี 2018 ที่จะต้องเริ่มชำระหนี้ใน ปี 2021 ซึ่งในที่นี้ IMF ก็ได้ออกมาแสดงถึงความเข้าใจในเหตุการณ์และให้ความเห็นว่ายังคงยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในขณะเดียวกันหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางรัฐบาล Argentina ได้ออกประกาศใช้มาตรการ Capital Controls ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 2
ก.ย. 2019 โดยมีสาระสำคัญตามประเด็นต่อไปนี้
- จำกัดปริมาณการขาย USD ของธนาคารกลาง
- ธนาคารพาณิชย์และบริษัทต่างๆ ต้องมีการขออนุมัติในการซื้อสกุลเงินหลักต่างประเทศ
- บริษัทส่งออกต้องนำเงินสกุลต่างประเทศที่ฝากอยู่นอกประเทศกลับมา
- ประชาชนผู้ที่ต้องการจะซื้อ USD ถูกจำกัดอยู่ที่ $10,000 ต่อเดือน/คน
- ประชาชนผู้ที่ต้องการจะโอน USD ระหว่างประเทศถูกจำกัดอยู่ที่ $10,000 ต่อเดือน/คน
- Non-resident ที่ต้องการจะซื้อ USD ถูกจำกัดอยู่ที่ $1,000 ต่อเดือน/คน และไม่อนุญาติให้ทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ
มุมมองต่อสถานการณ์การลงทุนและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อกองทุน Principal Global Total Return Fund
เนื่องจากทางทีมผู้จัดการของกองทุน Templeton Global Total Return กองทุนหลักของ Principal Global Total Return Fund มีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล Argentina ในสัดส่วนประมาณ 6% ของเงินลงทุนทั้งหมดของกองทุน และส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรระยะสั้น รวมถึงการที่กองทุน Templeton Global Total Return มีการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน จึงทำให้ทาง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด (“บลจ.พรินซิเพิล”) เชื่อว่ากองทุน Templeton Global Total Return จะได้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนในประเทศ Argentina เพียงเล็กน้อย โดยในเบื้องต้น บลจ.พรินซิเพิล คาดว่าผลกระทบที่เกิดจากการลงทุนในประเทศ Argentina นั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม บลจ.พรินซิเพิล ก็ได้ประสารงานกับทางทีมผู้จัดการกองทุนของกองทุนหลักเพื่อติดตามสถานการณ์ประเทศ Argentina อย่างใกล้ชิด โดยทีมผู้จัดการกองทุนของกองทุนหลักยังเชื่อว่า ณ ปัจจุบันตลาดรับรู้ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ Argentina ไปมากแล้ว ซึ่งอาจสังเกตจากค่าเงิน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แกว่งตัวในกรอบแคบๆ (นักลงทุนไม่ได้เทขายพันธบัตรรัฐบาล Argentina แล้ว)
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาทางทีมผู้จัดการกองทุนของกองทุนหลัก ก็ได้มีการปรับกลยุทธ์การลงทุนบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนมากขึ้น โดยได้มีการลดสัดส่วนการลงทุนใน Emerging Markets รวมถึงปิดความเสี่ยงด้านค่าเงินในกลุ่มประเทศ Emerging Markets เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังได้มีการเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับค่าเงิน JPY ที่ปัจจุบันมีสถานะเป็น Long Position ตามความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นและค่าเงิน JPY ที่เป็นเสมือน Safe Asset ในขณะที่ยังคงมองว่าค่าเงิน EUR จะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากปัจจัยภายในทั้ง BREXIT และ European Central Bank ที่มีแนวโน้มที่จะกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ เช่นเดียวกับ AUD ที่จะอ่อนตัวตามเศรษฐกิจและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย ในขณะที่ Yield to Maturity ของ Portfolio ยังอยู่ที่ 7.74%
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน ณ ปัจจุบันทาง บลจ.พรินซิเพิล ยังคงแนะนำนักลงทุนถือลงทุนกองทุน Principal Global Total Return เพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป โดยทาง บลจ.พรินซิเพิล ยังคงเชื่อว่า สำหรับการลงทุนในส่วนอื่นๆ ของกองทุนหลักที่นอกเหนือจาก Argentina ยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ ทั้งนี้ทางทีมงาน บลจ.พรินซิเพิล จะยังคงประสานงานกับทางกองทุนหลักเพื่อติดตามสถานการณ์การลงทุน รวมถึงกลยุทธ์ในการรับมืออย่างใกล้ชิด และจะคอย update ให้นักลงทุนทราบต่อไป
Disclaimer:
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศกองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือ ได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนตํ่ากว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศกองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนตํ่ากว่าทุนเริ่มแรกได้/ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นคำเสนอหรือการเชิญชวนให้บุคคลใดทำการซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารนี้แต่อย่างใด / แม้บริษัทจัดการจะได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวมีความถูกต้อง และตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดทำเอกสารนี้ บริษัทจัดการและพนักงานของบริษัทจัดการไม่มีความรับผิดและจะไม่รับผิดสำหรับความผิดพลาดของข้อมูลใด ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม รวมทั้งจะไม่รับผิดสำหรับการกระทำใด ๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความเห็นหรือข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเอกสารฉบับนี้ บริษัทจัดการไม่ได้ให้คำรับรองหรือรับประกันไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายเกี่ยวกับความถูกต้อง แม่นยำ น่าเชื่อถือ ทันต่อเหตุการณ์หรือ ความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น / บริษัทจัดการขอปฏิเสธความรับผิดทั้งปวงที่เกิดหรืออาจเกิดขึ้นในทุกกรณี ทั้งนี้ความเห็นบทวิเคราะห์หรือการคาดคะเนต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือผลการดำเนินงานในอนาคตที่ปรากฏในเอกสารนี้ ไม่ถือเป็นเครื่องยืนยัน และอาจแตกต่างจากเหตุการณ์หรือผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงได้ / สำหรับนักลงทุนที่ต้องการทราบข้อมูลหรือ
รายละเอียดเพิ่มเติมหรือรับหนังสือชี้ชวน สามารถติดต่อบริษัจัดการหรือผู้ดำเนินการขายที่ท่านให้บริการ
อ่าน Market Commentary ย้อนหลังที่นี่
เกิดอะไรที่ Hong Kong โดย วิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน