ลงทุนพลังงานแห่งโลกอนาคตไปกับ PRINCIPAL GCLEAN
"ณ ปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่ากระแสของโลกกำลังหันไปใช้ "พลังงานสะอาด (Clean Energy)" แทนพลังงานจากฟอลซิลที่มาจากน้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติต่าง ๆ เนื่องจากเป็นพลังงานที่ใช้แล้วทำให้เกิดต้นทุนแฝงกลับมาอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะจากการที่พลังงานเหล่านี้ใช้แล้วหมดไป ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงปัญหาเรื่องมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ถือว่าเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ"
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาการใช้พลังงานสะอาดอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนหนึ่งอาจมาจากอุปสรรคทางสังคมที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร รวมไปถึงอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่ในอดีตต้นทุนการผลิตพลังงานสะอาดเหล่านี้มีต้นทุนที่สูงมาก ทำให้ยากที่จะนำมาใช้เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมได้
แต่ด้วยปัจจุบัน ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่คนกลุ่ม Millennials ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มคนที่กำลังขับเคลื่อนโลกอยู่ ณ เวลานี้ กำลังเป็นประเด็นที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้การผลิตพลังงานสะอาดต่าง ๆ มีต้นทุนที่ต่ำลงจนอยู่ในระดับที่เริ่มแข่งขันได้แล้ว
หากเราย้อนกลับไปดูตั้งแต่ปี 2006 ที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมากขึ้น ทำให้มีการวิจัยพัฒนา (Research & Development) มาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงปลายปี 2020 ที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่ผู้ชนะก็คือ โจ ไบเดน ที่มีนโยบายเรื่องการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ทำให้อีกไม่นานเราน่าจะเห็นนโยบายที่ออกมาสนับสนุนพลังงานสะอาดมากขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ประเทศอื่น ๆ ก็ยังมีการสนับสนุนพลังงานสะอาดมากกว่าพลังงานฟอลซิลแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเงินสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตพลังงานสะอาดหรือเปิดรับซื้อพลังงานจากผู้ผลิตพลังงานสะอาดโดยตรง รวมถึงมีการปรับลดอัตราภาษีสำหรับการนำเข้าและส่งออกพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
พลังงานสะอาด (Clean Energy) คืออะไร ?
พลังงานสะอาด (Clean Energy) คือ พลังงานที่ถูกผลิตและสร้างขึ้นโดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือถ้ามีก็น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับพลังงานฟอลซิลแบบเดิม ในทุกขั้นตอนการผลิตรวมไปถึงขั้นตอนการกำจัดข้อเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต จะต้องทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไซด์ออกไซด์ (CO2) ที่เป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน
ซึ่งพลังงานสะอาดโดยทั่วไปจะมาจากพลังงานจากธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานคลื่น พลังงานลม พลังงานจากชีวมวล รวมไปถึงพลังงานความร้อนพื้นใต้พิภพที่เป็นการนำพลังงานความร้อนจากใต้ดินมาใช้ในเกิดประโยชน์
PRINCIPAL GCLEAN กองทุนที่เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ของโลก
จะเห็นได้ว่าพลังงานสะอาดกำลังมีความต้องการใช้งานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ความนิยมในการใช้พลังงานสะอาด ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้มากกว่าปีละ 8-14% สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด สามารถเลือกลงทุนผ่าน "กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล คลีน เอเนอร์จี (Principal Global Clean Energy Fund – PRINCIPAL GCLEAN)" ที่เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Global Clean Energy UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) USD (Dist) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์ของกองทุน (Feeder Fund) โดยกองทุนหลักจะมีมุ่งเน้นลงทุนผ่านหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P Global Clean Energy เป็นหลัก โดยหุ้นที่น่าสนใจที่กองทุนหลักเลือกลงทุน ได้แก่
1. Plug Power
บริษัทสัญชาติอเมริกาที่ถือว่าเป็นผู้นำด้านการผลิตพลังงานสะอาดด้วยเชื้อไฮโดรเจนไร้คาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาโลกร้อน โดยมีการประยุกต์ต่อยอดเทคโนโลยีพลังงานสะอาดไปใช้ในเชิงพาณิชย์ครอบคลุมทั้งการเดินทาง การขนส่ง ศูนย์เก็บข้อมูล (Data Center) ต่าง ๆ ซึ่ง Plug Power มีแผนที่จะขยายให้สถานีเติมเชื้อเพลิงให้มากกว่า 500 สถานีภายในปี 2024 (source: plugpower.com, 2019)
2. Xinyi Solar
ผู้นำโลกสัญชาติจีนด้านนวัตกรรมกระจกเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ถือว่าเป็นขนาดบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านกระจกพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ที่สามารถให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาการผลิตแบบอัตโนมัติ การจัดจำหน่ายและการบริการหลังการขาย (source: xinyisolar.com, 2019)
3. Meridian Energy
บริษัทสัญชาตินิวซีแลนด์ผู้ผลิตพลังงานสะอาด 100% จาก ลม น้ำ และแสงอาทิตย์ ที่เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของนิวซีแลนด์ โดยมีรัฐเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 51% ที่ให้บริการทั้งเชิงที่อยู่อาศัย เกษตรกรรม อุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ จุดเด่นของ Meridian Energy คือ รัฐบาลของนิวซิแลนด์ไม่มีการควบคุมราคาในตลาด โดยถือว่าเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อยราย ทำให้มีความสามารถในการกำหนดราคาที่สูง รวมถึงด้วยขนาดส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่ใหญ่ ซึ่งรายได้มากกว่า 40% ของ Meridian Energy อยู่ในรูปแบบของการการันตีว่าจะมีรายได้ที่แน่นอน ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ Meridian Energy เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง (source: meridianenergy.co.nz, 2019)
เพื่อเป็นการการันตีคุณภาพกองทุนหลัก iShares Global Clean Energy UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) USD (Dist) ยังได้รับ 5 ดาวจาก Morningstar Rating สำหรับระยะเวลา 3 ปีและ 5 ปี ในปี 2020 กองทุนสร้างผลตอบแทน 141% เท่ากันกับดัชนีอ้างอิง (Benchmark: S&P Global Clean Energy Index – Source: BlackRock, S&P) ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานทั่วโลก ซึ่งมีสัดส่วนหลักในกลุ่มพลังงานยุคเก่าอย่าง S&P Energy Index และ MSCI World Energy Index สร้างผลตอบแทนได้เพียง -34 และ -32% ตามลำดับ (Source: Bloomberg, Morningstar Direct, MSCI Jan 2021)
สะท้อนภาพความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และทางเลือกพลังงานของคนยุคปัจจุบันที่ชัดเจน
สำหรับใครสนใจลงทุนในพลังงานสะอาดผ่าน "กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล คลีน เอเนอร์จี (Principal Global Clean Energy Fund – PRINCIPAL GCLEAN)" สามารถเตรียมเข้าซื้อผ่านการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 24-30 มีนาคม 2564 นี้ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดกองทุน รวมถึงรายละเอียดการจัดจำหน่ายได้ที่นี่ คลิก https://www.principal.th/th/principal/GCLEAN-A
ดูสรุปข้อมูล Principal GCLEAN 'ลงทุนพลังงานสะอาด พลังงานแห่งโลกอนาคต' ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand/posts/285811106247862
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนเปิดพรินซิเพิลโกลบอล คลีน เอ็นเนอร์จี มีนโยบายลงทุนในกองทุนต่างประเทศ บริษัทจัดการอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศตามความเหมาะสมและสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งกองทุนหลักอาจได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทและลักษณะพิเศษของกองทุนรวมในอนาคตเป็น Fund of Funds หรือกองทุนรวมที่มีการลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศได้ หรือกลับมาเป็นกองทุน Feeder Fund ได้โดยไม่ทำให้ระดับความเสี่ยงของการลงทุน (risk spectrum) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ให้เป็นตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยขึ้นกับสถานการณ์ตลาด และต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุน อนึ่ง บริษัทจัดการจะดำเนินการแจ้งผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยผ่านเว็บไซต์ของบริษัทจัดการที่ www.principal.th หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดการกำหนดก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงการลงทุนดังกล่าว
Morningstar: Copyright @ 2020 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ :
(1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล
(2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่
(3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต