ยุคขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์สู่การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสุขภาพ
“คุณยอมจ่ายขนาดไหนเพื่อให้คุณหรือคนที่คุณรักยังมีชีวิต?”
“หากเลือกได้คุณจะยอมเป็นโรคแล้วค่อยรักษา หรือ ป้องกันอย่างตรงจุดเพื่อหลีกเลี่ยง/ลดความรุนแรงของการป่วย?”
หากคำตอบของคุณคือเต็มใจจ่ายเต็มที่และต้องการป้องกันก่อนเป็นโรค/รักษาอย่างตรงจุด คุณต้องไม่พลาดเนื้อหาต่อจากนี้
เมื่อข้อมูลสุขภาพที่ซับซ้อนและมหาศาลผนวกกับวิวัฒนาการเทคโนโลยีขั้นสูงโลกแห่งอุตสาหกรรมสุขภาพจึงเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
-
ร่างกายของมนุษย์มีความซับซ้อนสูง มีองค์ประกอบนับล้านที่ต่างส่งผลถึงสุขภาพแตกต่างกัน ลำพังมนุษย์ไม่สามารถเก็บข้อมูลเหล่านั้นได้ละเอียดมากเพียงพอที่จะนำมาประมวลผลและวิเคราะห์
-
แต่ปัจจุบันกำลังเข้าสู่จุดบรรจบกันของข้อมูลสุขภาพที่ซับซ้อนและมหาศาลกับวิวัฒนาการเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลขั้นสูง จีโนมิกส์ พันธุวิศวกรรม ชีววิทยาระดับโมเลกุล นาโนเทคโนโลยี เพื่อการเอาชนะต่อโรคร้ายของมวลมนุษยชาติ
-
จากการถอดรหัสพันธุกรรมที่ใช้กับไวรัส สำหรับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ Covid-19 ที่ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน สู่การสร้างมนุษย์ที่ “สมบูรณ์แบบ” แม้ท้าทายธรรมชาติ จึงอยู่เพียงไม่กี่ก้าวข้างหน้าของมวลมนุษยชาติเท่านั้น
หมดยุคที่ยาแก้ปวดเป็นคำตอบสำหรับทุกสิ่ง
เรากำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่านจาก
• การลองผิดลองถูกสู่การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Trial and error to being data-driven)
• การรักษาแบบหว่านแหสู่การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (One-size-fits-all medicine to personalized therapies)
• จากการรักษาสู่การป้องกัน (Treatment to prevention)
กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เฮลท์ อินโนเวชัน
Principal Global Health Innovation Fund (PRINCIPAL GHEALTH)
(กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Healthcare จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)
กองทุนหุ้นนวัตกรรมสุขภาพ โอกาสลงทุนท่ามกลางการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ของวงการแพทย์
กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เฮลท์ อินโนเวชัน - Principal Global Health Innovation Fund (PRINCIPAL GHEALTH) ลงทุนในกองทุน Baillie Gifford Worldwide Health Innovation (เป็นสัดส่วนหลัก) และกองทุน Credit Suisse (Lux) Digital Health Equity
จุดเด่นคือ การเฟ้นหาหาบริษัทที่ปฏิวัติวงการแพทย์ของมนุษยชาติแห่งอนาคต โดยทีมบริหารกองทุนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก หลากหลายสาขาวิชา ตัวอย่างเช่น แพทยศาสตร์ ชีวเคมี ผ่านมุมมองการลงทุนในบริษัทตั้งแต่ยังไม่จดทะเบียนและบริษัทขนาดเล็ก ภายใต้ระบบนิเวศของเครือข่ายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีอิทธิพลทางความคิด ผู้ประกอบการ สถาบันสาธารณะ และสถาบันศึกษาจากทั่วทั้งโลก
กองทุน PRINCIPAL GHEALTH ลงทุนครอบคลุมทั้ง Value chain
ตั้งแต่
(1) การระบุสาเหตุที่แท้จริงของโรค – Illumina บริษัทด้าน Genomics ผู้ผลิตเครื่อง DNA sequencing วิเคราะห์ความแปรปรวนทางพันธุกรรมทั้งมนุษย์และเชื้อโรค
(2) การวินิจฉัย – Exact Sciences บริษัทด้าน Molecular diagnostics ผู้ครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา Cologuard test ตรวจเชื้อมะเร็งจากอุจจาระตั้งแต่ระยะแรก ประสิทธิภาพสูงถึง 92% รวมทั้งเทคโนโลยีการตรวจเชื้อมะเร็งตับ มะเร็งไต
(3) การรักษา – Moderna บริษัทด้าน mRNA Therapeutics รักษาโรคระบาด มะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคติดต่อทางพันธุกรรม โรคที่พบได้ยาก
(4) การป้องกัน - Livongo บริษัทด้าน Chronic condition managementเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อรักษาโรค ตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และเสนอแนะแผนในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ
(5) การช่วยขับเคลื่อนปฏิบัติการการรักษาให้มีประสิทธิภาพ – Teladoc บริษัทด้าน Telemedicine ตอบโจทย์ปัญหาทั้ง Medical และ Mental health รวมทั้งการขาดแคลนของแพทย์ คนไข้ได้รับความสะดวกสบายขึ้น ประหยัดเวลาลง ราคาถูกลง
นอกจากนี้ยังรวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์อื่น ตัวอย่างเช่น CRISPR Gene editing, Gene therapy, Immunology, Targeted Therapeutic, Agricultural Biology Bioinformatics, Stem cell transplant ฯลฯ
กองทุน PRINCIPAL GHEALTH ครอบคลุมโอกาสในอุตสาหกรรมการแพทย์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ไม่ว่าจะเป็น
- ตลาด Telemedicine จะเติบโต 33% ทบต้นต่อปี (ที่มา: Fortune Business Insight, 2018-2026)
- ตลาด Next Generation Sequencing Market จะเติบโต 20% ทบต้นต่อปี (ที่มา: Global Market Insights, 2018-2025)
- ตลาด Custom Cancer Vaccines ที่จะกินส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ภายในปี 2024 (ที่มา: Markets Insider, 2019) เป็นต้น
มองกองทุน PRINCIPAL GHEALTH ผ่านผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ของกองทุนหลัก
กองทุน Baillie Gifford Worldwide Health Innovation และกองทุน Credit Suisse (Lux) Digital Health สร้างผลตอบแทนถึง 85% และ 87% ตามลำดับ สูงกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI World AC Index ถึง 68% และ 70% ตามลำดับ ขณะที่กองทุน Baillie Gifford Worldwide Health Innovation จำกัดความเสี่ยงขาลงอย่างมีนัยยะสำคัญ (ที่มา บลูมเบิร์ก, 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2020)
กองทุน PRINCIPAL GHEALTH มีมูลค่าเหมาะสมในการลงทุน
เมื่อพิจารณาด้าน Enterprise value-to-sales บ่งชี้ว่าหุ้นในกองทุนถูกลง นักวิเคราะห์ประเมินแนะนำซื้อ รวมทั้งการพิจารณาจาก P/E ที่ MSCI World Healthcare Index มีราคาส่วนลดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับ S&P500 (ที่มา บลูมเบิร์ก, ธ.ค. 2020)
จุดเด่นกองทุน PRINCIPAL GHEALTH
เมื่อพิจารณาด้าน Enterprise value-to-sales บ่งชี้ว่าหุ้นในกองทุนถูกลง นักวิเคราะห์ประเมินแนะนำซื้อ รวมทั้งการพิจารณาจาก P/E ที่ MSCI World Healthcare Index มีราคาส่วนลดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับ S&P500 (ที่มา บลูมเบิร์ก, ธ.ค. 2020)
(1) กองทุนหลักลงทุนในหุ้นของธุรกิจ Healthcare ที่มีนวัตกรรมการแพทย์ ครอบคลุมทั้ง Value Chain ผ่านการวิเคราะห์การลงทุนแบบไร้กรอบด้วยคำถาม ‘What if’ ตัวอย่างเช่น
“ทำไมต้องมีบริษัทนี้อยู่ในอนาคต?”
“หลักฐานที่บริษัทให้ความเอาใจใส่ต่อผู้ป่วยคืออะไร?”
“มั่นใจได้อย่างไรว่าบริษัทจะสร้างผลตอบแทนอย่างน้อย 2.5 เท่า ภายใน 5 ปี?”
”ความสำเร็จจะปฏิวัติอนาคต Healthcare system ได้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน?”
(2) ขนาดตลาดอยู่บนฐานลูกค้าทั้งกลุ่มที่ไม่มีปัญหาสุขภาพและมีปัญหาสุขภาพทั่วทั้งโลก
(3) มีประวัติผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่น อีกทั้งจำกัดความเสี่ยงขาลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
กองทุนดังกล่าวเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 27 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2564
อ่านข้อมูลกองทุน Principal GHEALTH ได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/GHEALTH-A
ศึกษาข้อมูลกองทุนรวมอื่นๆได้ที่ https://www.principal.th/th/mutual-fundth
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ผู้จัดการกองทุน
- กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
- กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Healthcare ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทและลักษณะพิเศษของกองทุนรวมในอนาคตเป็น Feeder Fund หรือกองทุนรวมที่มีการลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์และทรัพย์สิน ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศได้ หรือกลับมาเป็นกองทุน Fund of Funds ได้โดยไม่ทำให้ระดับความเสี่ยงของการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ให้เป็นตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด
44 อาคาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ชั้น16 ถ. หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร. (02) 686-9595 โทรสาร. (02) 657-3167
Website www.principal.th
หรือติดตาม Principal Thailand ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand
LINE : https://lin.ee/C6KFF6E หรือ @principalthailand
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCqELMp69UteyKgtWo4JuBqg