กองทุนเวียดนามลดหย่อนภาษี บลจ.พรินซิเพิล PRINCIPAL VNEQRMF
โค้งสุดท้ายของปี! มาเริ่มต้นเซฟภาษีเพื่อสร้างพอร์ตเกษียณมั่งคั่งในอนาคตผ่านกองทุน
PRINCIPAL VNEQRMF กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ
ให้ผู้ลงทุนรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
และเติบโตไปพร้อมกับตลาดหุ้นเวียดนาม ประเทศดาวรุ่งที่เติบโตสูงสุดในเอเชีย
กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ PRINCIPAL VNEQRMF บริหารโดย บลจ. พรินซิเพิล ที่มีทีมผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์และเชี่ยวชาญ
ทั้งชาวไทยและเวียดนาม ใช้กลยุทธ์การบริหารแบบ Active Management ลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นเวียดนาม พิสูจน์ผลงานสร้างผลตอบแทนโดดเด่นตั้งแต่ต้นปี 13.60% (มกราคม – กันยายน 2567)
และได้รับ Morningstar 5 ดาว (กันยายน 2567) บริหารโดย บลจ. พรินซิเพิล ที่ได้รับรางวัลบริษัทจัดการยอดเยี่ยม Best Asset Management Company Awards จากงาน SET Awards 2023
ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/VNEQRMF
พิเศษ! ผู้ลงทุนในกองทุน PRINCIPAL VNEQRMF ที่สะสมยอดลงทุนครบทุก 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน PRINCIPAL DPLUS มูลค่า 100 บาท*
*โปรดศึกษาเงื่อนไขการลงทุนและการรับของกำนัล https://www.principal.th/th/Promotion_SSF_RMF_ThaiESG_2024
เจาะลึก 3 จุดเด่น กองทุน PRINCIPAL VNEQRMF เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
1. ผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญและใช้กลยุทธ์การลงทุนที่โดดเด่น
ทีมบริหารมีความเชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและเวียดนาม โดยมีการลงพื้นที่สำรวจตลาดหุ้นเวียดนามทุกไตรมาส เพื่อคัดเลือกหุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ บลจ. พรินซิเพิล ยังการันตีความสำเร็จด้วยการได้รับรางวัล Best Asset Management Company Awards จาก SET Awards 2023
2. กองทุนสามารถทำผลตอบแทนโดดเด่นตั้งแต่ต้นปี 13.60% (มกราคม – กันยายน 2567) พิสูจน์ผลงานด้วยการได้รับ Morningstar 5 ดาว (กันยายน 2567) สะท้อนถึงความสามารถในการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตสูงและการบริหารจัดการกองทุนมีประสิทธิภาพ Source: Bloomberg ณ วันที่ 30 กันยายน 2567
3. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมสร้างพอร์ตเกษียณมั่งคั่ง
เงินลงทุนสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ประจำปี โดยวงเงินรวมกับสิทธิการลงทุนอื่นไม่เกิน 500,000 บาท ไม่กำหนดการลงทุนขั้นต่ำ แต่ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี และถือครองถึงอายุ 55 ปี เพื่อสร้างแผนเกษียณที่ดีในระยะยาว
4 เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามสู่การเติบโตระยะยาว
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเวียดนามถึงเป็นประเทศดาวรุ่งที่นักลงทุนต่างประเทศจับตามอง บลจ.พรินซิเพิล พาทุกคนมาไขคำตอบกับ 4 เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามสู่การเติบโตระยะยาว
G - Government (รัฐบาล)
รัฐบาลเวียดนามได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมกับส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับแรงงาน เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
I - Investment (การลงทุน)
ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตดี โดยในปี 2566 เวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเติบโตสูงถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นประเทศที่หลายบริษัทย้ายฐานผลิตมาที่เวียดนาม นอกจากนั้น ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องในอนาคต เมื่อพิจารณา Earning per share (EPS) ในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่จะสามารถโตได้มากกว่า 10% ในขณะที่ราคาตลาดหุ้นเวียดนาม VN Index ในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยอยู่ที่ประมาณ -0.5 SD จึงเป็นช่วงที่นักลงทุนสามารถทยอยสะสมเข้าไปในกอง PRINCIPAL VNEQRMF ได้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนที่มีมุมมองเป็นบวกในระยะยาว
C - Consumption (การบริโภค)
ชนชั้นกลางขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตดีต่อเนื่อง โดยธนาคารโลก (World Bank) มองว่าเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตได้ 6.5% ได้ในปี 2568-2569 จากภาคการผลิตและส่งออก นอกจากนี้เวียดนามยังได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่นักลงทุนจับตามอง
E - Export (การส่งออก)
การส่งออกเวียดนามเติบโตต่อเนื่อง ในไตรมาส 2/2567 มีมูลค่า 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ คือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าด้านการบริการ เช่น การท่องเที่ยวและการขนส่ง ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม
Source : Principal Asset Management Thailand, IMF World Economic Outlook database: October 2023, Bloomberg estimates date as of 11 March 2024
เลือกเซฟภาษีพร้อมโอกาสเติบโตระยะยาวไปกับเศรษฐกิจเวียดนาม เหตุผลที่ทำให้กองทุน PRINCIPAL VNEQRMF เหมาะกับการลงทุนระยะยาว มีดังนี้
1. นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต
2. ตลาดหุ้นเวียดนามมีความสัมพันธ์กับตลาดอื่นต่ำ ทำให้มีโอกาสกระจายความเสี่ยงได้ดี
3. ราคาหุ้นเวียดนามต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และมีโอกาสเติบโตสูงจากการเตรียมตัวขึ้นเป็น Emerging Market
4. เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าหลัง Fed เริ่มวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
Source : EPS Growth: Bloomberg estimates, as of 16 Aug 2024, PE: Bloomberg estimates, as of 2 Aug 2024
กองทุนหลักเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพเติบโตสูงกับธุรกิจชั้นนำในประเทศเวียดนาม เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวและมั่นคง เช่น
- FPT CORP: FPT
บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม จัดจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์, ซอฟต์แวร์, บริการคลาวด์ และให้คำปรึกษาด้าน IT คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ในปี 2024 ที่ 20.60% และในปี 2025 ที่ 20.50%
- MOBILE WORLD INVESTMENT CORP: MWG
บริษัทค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในเวียดนาม คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ในปี 2024 ที่ 13.10% และในปี 2025 ที่ 10.30%
- HOUSING DEVELOPMENT BANK: HDB
ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในเวียดนาม คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ในปี 2024 ที่ 21.30% และในปี 2025 ที่ 20.10%
นอกจากนี้การเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ของดัชนี VN Index แบบรายปี (%YoY) คาดการณ์ว่าในปี 2024 จะมีการเติบโตที่ 22.23% และในปี 2025 การเติบโตจะชะลอตัวลงเล็กน้อยที่ 19.89% แต่จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2026 โดยคาดว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 24.16% แสดงถึงศักยภาพในการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเวียดนามในระยะยาวหลังจากที่ชะลอตัวลง
Source: Bloomberg as of 24 September 2024
สิ้นปีนี้ห้ามพลาด! รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและโอกาสรับกำไรจากการลงทุนในเวียดนาม ผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQRMF
RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ไม่ใช่สวัสดิการของบริษัทฯ
วงเงินลดหย่อนภาษี: ไม่เกิน 30% ของรายได้ (สูงสุด 500,000 บาท) * เมื่อรวมกับการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ เช่น SSF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนเพื่อการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ระยะเวลาถือครอง: อย่างต่ำ 5 ปี และขายได้ตอนอายุ 55 ปี
สินทรัพย์ลงทุน: ลงทุนในทุกสินทรัพย์ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
จำนวนซื้อขั้นต่ำ: ไม่มีกำหนด แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อย ซื้อปีเว้นปี)
นโยบายจ่ายปันผล: ไม่จ่ายปันผล
พิเศษ! ผู้ลงทุนในกองทุน PRINCIPAL VNEQRMF ที่สะสมยอดลงทุนครบทุก 50,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน PRINCIPAL DPLUS มูลค่า 100 บาท*
*โปรดศึกษาเงื่อนไขการลงทุนและการรับของกำนัล https://www.principal.th/th/Promotion_SSF_RMF_ThaiESG_2024
เพื่อไม่พลาดโอกาสในการลงทุนในเวียดนาม และรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด
หรือลงทุนผ่านแอป Principal TH ได้แล้ววันนี้
<< ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก >>
ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/VNEQRMF
ข้อมูลกองทุนรวม บลจ.พรินซิเพิล https://www.principal.th/th/mutual-fundth
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9500
ติดตามข่าวสาร และข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมจาก บลจ.พรินซิเพิล ได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand
YouTube : https://www.youtube.com/c/PrincipalThailand
LINE: @PrincipalThailand
Website : https://www.principal.th/
หรือโทร 02-686-9500
#PrincipalThailand #PrincipalVNEQRMF
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQRMF ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษี / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในคู่มือการลงทุน/หนังสือชี้ชวน/หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ให้เข้าใจและควรเก็บไว้เป็นข้อมูล เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัยให้สอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต