ทะยานสู่โอกาสการลงทุนกับมหาอำนาจเศรษฐกิจ 'สหรัฐฯ' กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ (PRINCIPAL USEQ) เน้นลงทุนหุ้น Mega Cap สหรัฐฯ ศักยภาพสูง

Image

สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก ด้วย GDP ที่ใหญ่ที่สุดและระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม 


ยังคงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญ และทั่วโลกยอมรับสหรัฐฯ ว่าเป็น ‘มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ’
ในปี 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่สดใส ได้แรงหนุนจากตลาดแรงงานที่มั่นคง การขยายตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะสนับสนุนการเติบโตในตลาดหุ้น
เพื่อไม่พลาดโอกาสลงทุนในตลาดสหรัฐฯ บลจ.พรินซิเพิล ขอแนะนำ กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ (PRINCIPAL USEQ) กองทุนหลักที่เน้นลงทุนในหุ้น Mega-Cap สหรัฐฯ ที่มีศักยภาพสูง โดยพอร์ตจะลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ใน 50% แรกของดัชนี S&P500 มีกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดี

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/USEQ-A

 << ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก >>

Image

ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อในปี 2025

1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดเติบโต 2.7% ในปี 2025 ซึ่งปรับเพิ่มจากการคาดการณ์เดิมที่ 2.2% และสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ

2. นโยบายทรัมป์ 2.0 สนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้น โดยการลดภาษีนิติบุคคล ผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงิน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

3. กำไรบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง โดย Bloomberg คาดว่ากำไรต่อหุ้นปี 2025 จะเติบโตถึง 11.5%

4. อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเติบโต

Source: Principal Thailand as of January 2025

Image

รวม 3 จุดเด่น PRINCIPAL USEQ เพื่อให้นักลงทุนคว้าโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า

1. ลงทุนในกองทุนหลัก Principal U.S. Mega-Cap ETF ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ใน 50% แรกของดัชนี S&P500 ซึ่งในปี 2024 สร้างผลตอบแทน 29.33% และในช่วง 3 ปีย้อนหลัง สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 16% ต่อปี

2. บริหารพอร์ตเชิงรุกด้วยกลยุทธ์การวิเคราะห์เชิงปริมาณที่เป็นกระบวนการเฉพาะของ PRINCIPAL โดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีความแข็งแกร่งของงบดุล ความยืดหยุ่นของกระแสเงินสด และทนทานต่อความผันผวนเศรษฐกิจ

3. ผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นเหนือดัชนีหลักๆ ในสหรัฐฯ เช่น S&P500, Russell 1000, NASDAQ 100 และยังได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว

Source: Principal Thailand as of January 2025

Image

กองทุนหลักของกองทุน PRINCIPAL USEQ มีกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุกเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการลงทุนของกองทุนหลักมีดังนี้:
1. คัดเลือกหุ้นในพอร์ต
ลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ใน 50% แรกของดัชนี S&P500

2. ให้น้ำหนักหุ้น

หุ้นที่อยู่ใน 5 อันดับแรก หรืออยู่ใน 10% แรกของดัชนี (แล้วแต่จำนวนไหนมากกว่า) 
จะได้รับน้ำหนักหุ้น ตามดัชนี ณ วันที่ปรับพอร์ต

ส่วนหุ้นที่เหลือจะให้น้ำหนักตามคะแนนความแข็งแกร่งของสถานะการเงิน (FSS) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative) โดยใช้กระบวนการเฉพาะของ Principal

เกณฑ์ในการให้คะแนนความแข็งแกร่งของสถานะการเงิน (FSS) :
1. พิจารณาความแข็งแกร่งของงบดุล ว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ในระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างมั่นคง

2. ความยืดหยุ่นของกระแสเงินสด โดยบริษัทต้องมีกระแสเงินสดอิสระจากการดำเนินงานที่มั่นคงและมีคุณภาพ

3.พิจารณาจากอำนาจในการตั้งราคา โดยเลือกบริษัทที่มั่นคงทางการเงินและมีผลตอบแทนจากกระแสเงินสด (CFROI) สูง แม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน

Source: Principal Mega-Cap ETF presentation Q3 2024

Image

กองทุนหลักของกองทุน PRINCIPAL USEQ เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่โอกาสสร้างกำไรระดับท็อป

TOP 10 หุ้นที่ลงทุน
1. MICROSOFT CORP น้ำหนักการลงทุน 6.4%
2. APPLE น้ำหนักการลงทุน 6.2%
3. NETFLIX INC น้ำหนักการลงทุน 5.8%
4. META PLATFORMS INC น้ำหนักการลงทุน 5.0%
5. VISA INC น้ำหนักการลงทุน 4.9%
6. JPMORGAN CHASE น้ำหนักการลงทุน 4.9%
7. BROADCOM INC น้ำหนักการลงทุน 4.8% 
8. NVIDIA CORP น้ำหนักการลงทุน 4.7%
9. BERKSHIRE HATHAWAY INC น้ำหนักการลงทุน 4.7%
10. MASTERCARD INC น้ำหนักการลงทุน 4.7%

TOP 5 หุ้นที่ลงทุน
1. Information Technology 
2. Financials
3. Communication Service
4. Health Care
5. Consumer Discretionary

จากข้อมูลข้างต้น กองทุน PRINCIPAL USEQ เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีโอกาสสร้างกำไรสูง โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและการเงินมีสัดส่วนการลงทุนสูงสุด เช่น MICROSOFT, APPLE และ NETFLIX นอกจากนี้ กองทุนยังมุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ การเงิน บริการการสื่อสาร เป็นต้น

Source: Bloomberg and Principal US Mega-Cap ETF website, Portfolio Holding as of 24 January 2025, Sector Weight as of 31 December 2024

Image

ตัวอย่างหุ้นในพอร์ตหลักของกองทุนหลักของกองทุน PRINCIPAL USEQ

1. APPLE
แบรนด์เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น iPhone, iPad, Apple Watch พร้อมบริการครบวงจร คาดการณ์ว่า EPS ของ Apple จะเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

2. NETFLIX
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ออนไลน์ ในอนาคตบริษัทจะเน้นพัฒนาคอนเทนต์และเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น Live Programming และ Games คาดการณ์ว่า EPS ของ Netflix จะเติบโตเฉลี่ย 22% ต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

3. VISA
บริษัทเทคโนโลยีเครือข่ายการเงิน ปัจจัยการเติบโตมาจาก E-Commerce และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว หนุนการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่า EPS ของ Visa จะเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

4. NVIDIA
บริษัทผลิตชิปในกลุ่ม Data Center, Gaming, Automotive และ Professional Visualization โดยได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูลและการสนับสนุนจากรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI คาดการณ์ว่า EPS ของ NVIDIA จะเติบโตเฉลี่ย 65% ต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

Source: Bloomberg, Visa, NVIDIA Annual report, data as of 22 January 2025

Image

กองทุนหลักของกองทุน PRINCIPAL USEQ มีผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นเป็นอันดับ 1 สร้างโอกาสเติบโตที่มั่นคง

โดยกองทุนหลัก PRINCIPAL US Mega-Cap ETF ผลตอบแทนโดดเด่นเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับดัชนีหลักอื่นๆ ของสหรัฐให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี และ 5 ปี อยู่ที่ 16% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 

นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการกองทุนที่มีคุณภาพและการให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าในตลาด ทำให้กองทุน PRINCIPAL USEQ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมั่นคงและยั่งยืน

Source: Morningstar Direct as of 24 January 2025

Image

ทะยานสู่โอกาสการลงทุนกับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ‘สหรัฐฯ’ ได้แล้ววันนี้ เพียงเริ่มต้นในกองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ (PRINCIPAL USEQ)

มีกองทุนหลักที่เน้นลงทุนในหุ้น Mega-Cap สหรัฐฯ ที่มีศักยภาพสูง โดยพอร์ตลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ใน 50% แรกของดัชนี S&P500 พร้อมกลยุทธ์การบริหารเชิงรุก เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนที่มั่นคงและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี

นอกจากนี้ กองทุนยังสร้างโอกาสเติบโตที่มั่นคง ด้วยผลตอบแทนโดดเด่นเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับดัชนีหลักอื่นๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งในปี 2024 สร้างผลตอบแทน 29.33% และในช่วง 3 ปีย้อนหลัง สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 16% ต่อปี (Source: Morningstar Direct as of 24 January 2025)และได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว (ข้อมูล ณ วันที่ 24 January 2025)

 

 เพื่อไม่พลาดโอกาสการลงทุนกับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ‘สหรัฐฯ’
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด
หรือลงทุนผ่านแอป Principal TH ได้แล้ววันนี้

 << ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก >>

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/USEQ-A
ข้อมูลกองทุนรวม บลจ.พรินซิเพิล https://www.principal.th/th/mutual-fundth
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9500

ติดตามข่าวสาร และข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมจาก บลจ.พรินซิเพิล ได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand
YouTube : https://www.youtube.com/c/PrincipalThailand
LINE: @PrincipalThailand
Website : ​​https://www.principal.th/
หรือโทร 02-686-9500

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต