จัดพอร์ตเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน เมื่อสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจนกับ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน PRINCIPAL GIFUH


รับชม Video รายละเอียดกองทุน 

Image

เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคอัตราดอกเบี้ยขาลง สินทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น คือ กลุ่มหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน  

อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตและการลงทุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า ทางด่วน สนามบิน และที่สำคัญโครงสร้างพื้นฐานทาง Digital ที่เป็น Global Mega trend ของโลก จากการเติบโตของ 5G, AI และ Internet of Things จากมุมมองการลงทุนที่สนับสนุนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานในระยะข้างหน้า บลจ. พรินซิเพิล ขอเสนอ กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ อันเฮดจ์ (PRINCIPAL GIFUH) โดยกองทุนหลักกระจายการลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภททั่วโลก กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนดีต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 9% ต่อปี พร้อมกับนโยบายการลงทุนแบบ FX Unhedged ที่เหมาะกับนักลงทุนระยะยาว ทำให้ไม่ต้องเสียต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินที่ปัจจุบันอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนค่าใช้จ่ายกองทุนที่ต่ำ

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/GIFUH-A 

 << ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก >>
 

Image

เหตุผลสำคัญที่ทำไมกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงนี้ 

โดยพิจารณาจากภาพรวมตลาดหุ้นปัจจุบันและโอกาสการเติบโตในอนาคต พร้อมกับจุดเด่นที่นักลงทุนควรจับตามอง
1. หุ้นโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง เนื่องจากมีกระแสเงินสดรับอย่างสม่ำเสมอ และทำให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลง
2.หุ้นโครงสร้างพื้นฐานมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการลงทุนจากทางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานอย่าง สนามบิน ไฟฟ้า ทางด่วน น้ำประปา การสื่อสาร ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่เป็น Mega Trend ของโลก เช่น การเติบโตของ 5G, AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ
3. หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน เพราะมีกระแสรายได้ที่มั่นคง ไม่ผันแปรไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ มีความผันผวน และ Correlation ที่ต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นโลก ดังนั้น กองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งในสินทรัพย์ลงทุนในพอร์ตหลัก กระจายความเสี่ยง เพิ่มความมั่นคงให้พอร์ตลงทุน 
4. กำไรต่อกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมูลค่า (Forward P/E) ที่อยู่ในระดับไม่แพงประมาณ – 1SD

Source: thinkener, Bloomberg, data as of 26 July 2024, Lazard Global Listed Infrastructure presentation as of July 2024 

Image

เทรนด์การลดดอกเบี้ย สินทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น นั้นก็คือ กลุ่มหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน 

ECB ธนาคารกลางยุโรป นำร่องลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน BoE ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม  ขณะที่ Fed ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือนกันยายน และมีโอกาสต่อเนื่องไปถึงปีหน้า 

จากเทรนด์การลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของทางธนาคารกลางทั่วโลก สินทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น นั้นก็คือ กลุ่มหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลง

ในอดีตปี 2019 ช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐฯ ปรับตัวลง จากการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้ Global Infrastructure Index ให้ผลตอบแทนสูงมากกว่า 20% 
Source: Bloomberg, data as of 29 July 2024

Image

โอกาสเติบโตก้าวหน้าไปพร้อมกับ Infrastructure ที่เติบโตไปพร้อมกับ Mega Trend ของโลก  

เมื่อมองภาพรวมตลาดหุ้นในปัจจุบัน พบว่าทั่วโลกมีการลงทุนในกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นในทุกปี จากประชากรที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของชนชั้นกลาง รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล จากการเติบโตของ 5G AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ

2 เทรนด์หลักที่หนุนกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเติบโต ได้แก่
1. Digitalization 
การเข้ามาของ AI, Internet of Things (IoT) และ Cloud computing ยิ่งต้องการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (Digital Infrastructure) มากขึ้น เพื่อการรับ ส่งข้อมูล เสถียร และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับประโยชน์ เช่น Digital Infrastructure, Wireless Infrastructure, Fiber Network เป็นต้น

2. Deglobalization
เทรนด์การกระจายการผลิตไปยังต่างภูมิภาคเพื่อลดการกระจุกตัวของห่วงโซ่อุปทาน จากเหตุการณ์ Covid-19 และความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ เช่น จีน-สหรัฐ, รัสเซีย-ยูเครน โดยกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับประโยชน์ เช่น Railroads, Airport, Toll Roads เป็นต้น

Source: cinea.ec.euro, visualcapitali, visualcapitalis, Three global megatrends paper of Actis as of May 2024

Image

เพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยกองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ อันเฮดจ์ (PRINCIPAL GIFUH) 

ลงทุนในกองทุนหลัก Lazard Global Listed Infrastructure ที่เน้นลงทุนในกลุ่ม Preferred Infrastructure เป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ให้รายได้ที่มั่นคง ประสิทธิภาพทำกำไรสม่ำเสมอ มีอายุสินทรัพย์ที่ยาวนาน หรือมีสัมปทาน หลายสิบปี เช่น ลงทุนในสนามบิน มากกว่าสายการบิน เนื่องจากเป็นกิจการผูกขาด ที่ได้รายได้จากทุกสายการบินที่มาใช้บริการ 

ซึ่งกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานประเภทนี้ จะให้ Dividend Yield ที่สูงกว่า Valuation ที่ถูกกว่า 
และความสามารถในการทำกำไรที่มากกว่ากลุ่มโครงสร้างพื้นฐานแบบทั่วไป

กองทุนหลักบริหารโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมากประสบการณ์ด้าน Global Infrastructure โดยเฉพาะจาก Lazard Asset Management ซึ่ง Lazard Asset Management เป็นหนึ่งในบริษัทที่ปรึกษา และบริหารกองทุนชั้นนำระดับโลก อีกทั้งยังเป็นบริษัทแรกๆ ที่ริเริ่มลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน มีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ใหญ่ที่สุดในการลงทุนประเภทกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน

Source: Lazard Global Listed Infrastructure presentation as of July 2024

Image

กองทุน PRINCIPAL GIFUH เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

กองทุน PRINCIPAL GIFUH เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 9% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าดัชนีอ้างอิงที่เกี่ยวข้องในเกือบทุกช่วงเวลา และเหมาะสมที่จะเป็นพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) ที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

Source: Bloomberg data as of 26 July 2024

Image

กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ อันเฮดจ์ (PRINCIPAL GIFUH) 

มีการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกประมาณ 25-50 บริษัท โดยสัดส่วนการลงทุน Top 5 อยู่ในประเทศ สหรัฐอเมริกา 25.6% อังกฤษ 20.5% อิตาลี 15.6% ฝรั่งเศส 9.5% และสเปน 8.7% ตามลำดับ ซึ่งสัดส่วนการ ลงทุนอื่นๆ จะถูกกระจายความเสี่ยงไปในอุตสาหกรรมในทวีปเอเชีย

ทั้งนี้ ประเภทการลงทุน Top 5 ของกองทุน PRINCIPAL GIF ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค 24.2% ทางด่วน
23.4% โรงไฟฟ้า 14.2% รางรถไฟ 13.0% และนํ้าประปา 11.3% ตามลำดับ อีกทั้งยังมีการลงทุนในกลุ่ม แก๊ส
สนามบิน และโทรคมนาคม ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างบริษัทที่ลงทุน
Ferrovial ผู้ให้บริการทางด่วน ที่มีมากถึง 23 ทางด่วน ในสหรัฐ สเปน อังกฤษ เช่น ทางด่วน 407 EDG Highway เป็นโครงสร้างสัมปทานทางด่วนที่ใหญ่ที่สุดในรัฐออนแทริโอ ในแคนาดา ความยาว 20 ไมล์ มีระยะเวลาสัมปทานมากถึง 30 ปี 

Norfolk Southern ผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟรายใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ประกอบไปด้วยเส้นทางมากกว่า 19,100 ไมล์ในกว่า 22 รัฐ เป็นผู้ขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ เช่น เกษตรกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค สารเคมี โลหะ และวัสดุก่อสร้าง    

American Electric power ผู้ผลิต ส่ง และจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ในสหรัฐอเมริกา ให้บริการลูกค้ามากกว่า 5 ล้านคน ใน 11 รัฐ เช่น Michigan,Texas, Virginia 

Source: Lazard Global Listed Infrastructure Fund, Data as of 30 June 2024, Company website, Bloomberg data as of 31 July 2024

Image

กองทุนแรกในกลุ่มกองทุน Global Infrastructure ที่มีนโยบายแบบ Unhedged  

กองทุนหลัก PRINCIPAL GIFUH เป็นกองทุนแรกในกลุ่มกองทุน Global Infrastructure ที่มีนโยบายแบบ Unhedged (ที่มา Morningstar ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 2567)

กองทุน Unhedged  คือกองทุนที่มีนโยบายไม่ได้ป้องกันเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

PRINCIPAL GIFUH เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทและดอลล่าร์สหรัฐฯ ในระยะยาว ไม่ได้แข็งค่าหรืออ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ โดย 5 ปี และ 10 ปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่า 1.16% ต่อปี และ 0.57% ต่อปี ตามลำดับ เมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ 

ดังนั้นนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว จึงไม่จำเป็นต้องเสียต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (hedging cost) ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงประมาณ 2.5- 3% ต่อปี ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนค่าใช้จ่ายกองทุนที่ต่ำ 

Image

ห้ามพลาด! PRINCIPAL GIFUH กองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน  

เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคอัตราดอกเบี้ยขาลง สินทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น คือ กลุ่มหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตและการลงทุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น  ไฟฟ้า ทางด่วน สนามบิน และที่สำคัญโครงสร้างพื้นฐานทาง Digital ที่เป็น Global Mega trend ของโลก จากการเติบโตของ 5G, AI และ Internet of Things 

จากมุมมองการลงทุนที่สนับสนุนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานในระยะข้างหน้า บลจ. พรินซิเพิล ขอเสนอ กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ อันเฮดจ์ (PRINCIPAL GIFUH) กระจายการลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภททั่วโลก กองทุนหลักสร้างโอกาสรับผลตอบแทนดีต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 9% ต่อปี พร้อมกับนโยบายการลงทุนแบบ FX Unhedged ที่เหมาะกับนักลงทุนระยะยาว ทำให้ไม่ต้องเสียต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินที่ปัจจุบันอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนค่าใช้จ่ายกองทุนที่ต่ำ

 เพื่อไม่พลาดโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่เติบโตไปพร้อมกับ Megatrends ของโลก และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ในยุคอัตราดอกเบี้ยขาลง 
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
แอปพลิเคชัน KPLUS
และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด
หรือลงทุนผ่านแอป Principal TH ได้แล้ววันนี้

 << ดาวน์โหลดแล้วซื้อกองทุนผ่านแอป Principal TH คลิก >>

ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/GIFUH-A 
ข้อมูลกองทุนรวม บลจ.พรินซิเพิล https://www.principal.th/th/mutual-fundth
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9500

ติดตามข่าวสาร และข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมจาก บลจ.พรินซิเพิล ได้ทุกช่องทาง
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand
YouTube : https://www.youtube.com/c/PrincipalThailand
LINE: @PrincipalThailand
Website : ​​https://www.principal.th/
หรือโทร 02-686-9500
 

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศยุโรป และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้/ กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต