ตรุษจีนนี้เตรียมตัวอย่างไรให้เสริมมงคลพร้อมรับโชคลาภ

ตรุษจีน

วันเวลาที่ไม่เคยคอยใคร หมุนเวียนเปลี่ยนไปใกล้เข้าสู่วันตรุษจีนอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่สำคัญเทศกาลหนึ่งของชาวจีนรวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีน ในการร่วมพิธีขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนนั่นเอง

รู้ไหมว่า..ก่อนหน้าที่จะมีการกำหนดให้ตรุษจีนเป็นเทศกาลปีใหม่นั้น จีนมีปีใหม่มาก่อนถึง 2 วัน คือวันสารทปีใหม่ และวันปีใหม่ตามฤดูกาลและการเกษตร วันตรุษจีนเดิมนั้นคือเทศกาลบวงสรวงเพื่อการเกษตร และได้มีกิจกรรมที่เพิ่มเข้ามาในสมัยต่างๆ ตั้งแต่กิจกรรมความเชื่อทางไสยศาสตร์ มาสู่กิจกรรมบันเทิง เฉลิมฉลอง และกิจกรรมทางสังคม ธรรมเนียมใหม่ๆ จนเมื่อปี พ.ศ. 2550 รัฐบาลจีนมีมติให้เทศกาลตรุษจีนเป็นวันหยุดยาว 7 วัน จึงมีผู้เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลนี้เป็นจำนวนมากจากทั่วโลก แต่ในปัจจุบันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงมีการขอความร่วมมือให้ร่วมฉลองในพื้นที่ที่พักอาศัยของตัวเอง การเดินทางจึงอาจไม่คึกคักเท่าที่เคย ทั้งนี้ในแต่ละพื้นที่นั้นก็มีธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป สำหรับวันตรุษจีนในไทย แบ่งออกเป็น 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว

วันจ่าย

เป็นวันที่ผู้คนจะพากันออกไปจับจ่ายซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ก่อนที่ร้านค้าเหล่านั้นซึ่งเจ้าของกิจการมักเป็นชาวจีน จะปิดร้านหยุดขายของเพื่อไปเฉลิมฉลองเช่นเดียวกัน ในปัจจุบันด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยี ห้างร้านหลายแห่งก็ได้มีการเปิดให้จองชุดไหว้เจ้าออนไลน์แบบจัดส่งให้ถึงบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกได้มากยิ่งขึ้น

วันไหว้ 

ช่วงเช้า - ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากไหว้เสร็จก็เผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี แต่ทั้งนี้ด้วยสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ที่สูง จึงอาจงดเผาหรือเผาเล็กน้อยพอเป็นพิธี 

ช่วงสาย - คือการไหว้บรรพบุรุษ ระลึกถึงญาติที่ล่วงลับและเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู จากนั้นจึงนำของไหว้มารับประทานร่วมกันและแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน  

ช่วงบ่าย - จะเข้าสู่การไหว้ทำทานสัมภเวสี หรือผีไม่มีญาติ แล้วจึงจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ 

ช่วงกลางคืน - บางบ้านอาจมีการไหว้เทพเจ้า ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เพิ่มเติม

วันเที่ยว

ถือเป็นวันแห่งสิริมงคล คนในครอบครัวจะพากันสวมเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใส โดยเฉพาะสีแดงที่เป็นมงคล เพื่อเสริมความสว่างสดใสให้แก่ชีวิต ในการเดินทางเยี่ยมญาติผู้ใหญ่หรือท่องเที่ยว มีธรรมเนียมปฏิบัติคือห้ามพูดคำหยาบ คำอัปมงคล งดทำบาป และเป็นวันที่เด็กๆ จะได้รับซองแดงพร้อมเงินขวัญถุง หรือที่เรียกกันว่าอั่งเปาจากผู้ใหญ่ ซึ่งในวันเที่ยวนี้ก็มีการปรับตัวในช่วงที่ต้องอยู่บ้านลดเสี่ยง ผู้คนก็หันมาใช้โซเชียลในการติดต่อสื่อสาร สวัสดีปีใหม่และอวยพร และมอบของขวัญให้กันทางออนไลน์ รวมถึงการมอบอั่งเปา

นอกจากขั้นตอนในข้างต้นแล้ว ยังมีธรรมเนียมสำคัญอีกอย่างเมื่อถึงช่วงตรุษจีน ซึ่งถือว่าได้เข้าสู่ปีฉลู (ปีวัว) อย่างเต็มรูปแบบ ก็คือการแก้ชง ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน “ปีชง” หมายถึงคู่ปีเกิดที่ไม่ถูกกัน อาจมีการปะทะเกิดขึ้น ซึ่งปีชง 2564 นี้ได้แก่ นักษัตรปีมะแม ฉลู มะโรงและจอ ควรแก้ชงเพื่อบรรเทาเคราะห์กรรม ลดแรงปะทะ ผ่อนหนักให้เป็นเบา โดยวิธีการแก้ชงที่ได้รับความนิยม ก็คือการนำเครื่องแก้ชงไปที่วัดจีนหรือศาลเจ้าที่มีเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยประดิษฐานอยู่ เพื่อขอพรให้ท่านคุ้มครองดวงชะตาของผู้ที่มีปีชง แต่หากไม่สะดวกทำพิธีแก้ชงที่วัด ก็สามารถทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ ทำบุญโลงศพให้คนไร้ญาติ หรือบริจาคโลหิตต่อชีวิตให้ผู้อื่น เป็นการปัดเป่าโชคร้ายให้กลายเป็นดีได้เช่นกัน

แม้ในปีนี้สถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวยให้จัดพิธีเต็มรูปแบบ แต่ก็ถือว่ายังสามารถเฉลิมฉลองและปฏิบัติตนตามธรรมเนียมเพื่อส่งกำลังใจ ปลุกให้ต่อสู้เผชิญวิกฤตกันต่อไปได้ และอยากจะฝากไว้ว่านอกจากสิ่งที่ทำเพื่อเสริมความมงคลด้านโชคลาภเงินทองตามประเพณีแล้ว สิ่งที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอโอกาสเพียงครั้งหนึ่งในหนึ่งปี และทำต่อเนื่องได้ในระยะยาว ก็คือการเพิ่มโอกาสด้วยการลงทุนให้เงินงอกเงย ซึ่งแต่ละคนอาจมีวิธีการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจ คือการลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ใช้เงินลงทุนน้อย ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/mutual-fundth

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.principal.th/ หรือโทร 02-686-9595

Reference:

https://www.silpa-mag.com/culture/article_27101, https://becommon.co/culture/lunar-new-year-family/, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/863225, https://www.thebangkokinsight.com/276961/, https://www.thaipost.net/main/detail/91615, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/916284, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/784113