PRINCIPAL VTOPP โอกาสดีที่เข้าลงทุนทั้งหุ้นเวียดนามและบริษัทต่างชาติที่เติบโตในเวียดนาม
ในภูมิภาคนี้ ไม่มีใครรุ่งและพุ่งแรงเท่ากับเวียดนามอีกแล้ว!
เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเวียดนามเริ่มดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อลดลง และประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ที่ดึงดูดเม็ดเงินโดยตรงจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) จำนวนมาก ทั้งนี้มาจากการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามมีศักยภาพการเติบโตสูง และน่าลงทุนในตลาดหุ้น
- เวียดนามถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสุดในเอเชีย โดยในปี 2564
คาดว่าเวียดนามจะมีสัดส่วนประมาณ 6% ของ GDP และเคยพุ่งขึ้นสูงสุดคิดเป็นสัดส่วน 10% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าประเทศไทย จีนและค่าเฉลี่ยทั่วโลก นอกจากปัจจัยเรื่องการเติบโตของ GDP ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สนับสนุน ที่ทำให้เวียดนามน่าลงทุน เช่น
- รัฐบาลเวียดนามให้ความสนับสนุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน เช่น FTA การผ่อนคลายกฎระเบียบการค้าการลงทุนหลาย ๆ ด้าน เป็นต้น
- สนับสนุนการสร้าง infrastructure ต่างๆ
- กลุ่มคนชนชั้นกลาง (middle class) เพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้ GDP per capita ของคนเวียดนามสูงขึ้น
- Urbanization สูงขึ้น คนย้ายเข้ามาอาศัยในเมืองมากขึ้น
- เวียดนามกำลังฟื้นตัวจาก COVID-19 เร่งเครื่องเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ขับเคลื่อนการเป็นฐานการผลิตโลก
เมื่อมาพิจารณาในส่วนของการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 จากการรายงานข่าวระบุว่า โรงพยาบาลสนามเริ่มปิดตัวลง สะท้อนให้เห็นว่าเวียดนามได้ผ่านสถานการณ์วิกฤติไปแล้ว ทั้งนี้เนื่องมาจากการเร่งฉีดวัคซีน 9 แสน - 1 ล้านโดสต่อวัน ของภาครัฐ โดยมีวัคซีนหลักเป็น Pfizer และ AstraZeneca รวมถึงมีการรับถ่ายโอนเทคโนโลยีผลิตวัคซีนแก้ผู้ผลิตท้องถิ่น
พร้อมกลยุทธ์เพื่อความพร้อมในการเปิดประเทศรับนักลงทุน โดยมีการจัดลำดับความสำคัญในการให้วัคซีนแก่เมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ก่อน ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน นอกจากนั้นยังมีแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2565 โดยเริ่มจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยจะทดลองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะฝูก๊วก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้ถึงเดือนมีนาคมปีหน้า และหาก ฝูก๊วกโมเดล ได้ผลที่ดี ก็จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ตามมา โดยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าเวียดนามจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มตลาดท่องเที่ยวสำคัญของเวียดนาม และมีการควบคุมโรคระบาด COVID-19 ได้ดี และมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ดีด้วยเช่นกัน อาทิ กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ยุโรป สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการจับจ่าย โดยจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- ขยายโอกาสลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกและไทยที่ได้รับประโยชน์จาก FDI
บริษัทชั้นนำระดับโลกรวมถึงไทยที่ลงทุนในเวียดนามมานานกว่า 10 ปี โดยบริษัทเหล่านี้จดทะเบียนนอกประเทศเวียดนาม แต่ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุน Foreign Direct Investment หรือ FDI จากภาครัฐเวียดนามในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี การจัดตั้งโรงงานการผลิต วัตถุดิบและค่าแรงที่เหมาะสม ดังนั้นจึงเป็นโอกาสการลงทุนในบริษัทเหล่านี้ผ่านกองทุน PRINCIPAL VTOPP เพื่อให้ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของเวียดนาม พร้อมการกระจายความหลากหลายในประเทศมากขึ้น
การลงทุนของบริษัทชั้นนำที่เติบโตได้ดีในเวียดนาม และได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม
ปัจจัยของการเติบโต
- มีองค์ความรู้ และโมเดลธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ
- ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีและการลงทุนจาก FDI
- บริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้ดีจาก วัตถุดิบและค่าแรงที่เหมาะสม
- สามารถขยายตลาดสินค้าและบริการในเวียดนาม จากผู้บริโภคที่มีฐานรายได้เพิ่มขึ้นและการเติบโตจากการขยายเมือง
ทำให้บริษัทต่างชาติที่เข้าลงทุนรวมถึงไทยหนึ่งในนักลงทุนหลักสำหรับตลาดเวียดนาม สามารถสร้างผลประกอบการที่ดีโดยส่วนหนึ่งมาจากการขยายกิจการในเวียดนาม
ขยายโอกาสลงทุนในบริษัทเวียดนามที่ขึ้นแท่นเป็นผู้นำระดับโลก
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมูลค่าของบริษัท Start-up กลุ่มเทคสูงเป็นอันดันต้นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ยกตัวอย่างเช่น
VNG Corporation ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาแอพ Zalo ซึ่งเป็นแอพโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานในเวียดนามสูงเป็นอันดับสาม รองจาก Youtube และ Facebook โดยปัจจุบันมีจำนวนบัญชีผู้ใช้งานประมาณ 100 ล้านรายทั่วโลก โดยบริษัทมีแผนจะ IPO ในตลาด Nasdaq ด้วยคาดการณ์มูลค่า IPO สูงถึง 2-3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
VinFast ผู้ผลิตรถสัญชาติเวียดนามที่กำลังอยู่ระหว่างผลิตรถ EV โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบคันแรกได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ในปี 2020 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับ 5 ในเวียดนาม โดยมียอดขายประมาณ 30,000 คัน และปีนี้ขายไปแล้วกว่า 25,500 คันซึ่งยอดขายเติบโตสวนทางกับตลาดรถยนต์ในประเทศเนื่องจากผลของการล็อคดาวน์ โดยบริษัทมีแผนจะเปิดโชว์รูมรถยนต์กว่า 60 โชว์รูมที่แคลิฟอเนียร์ในปีหน้า VinFast มีแผนจะ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยคาดการมูลค่า IPO ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก Bloomberg, VinFast
ทำไมต้องลงทุนกับ PRINCIPAL VTOPP?
- กลยุทธ์การบริหารกองทุน
ลงทุนโดยตรงในหุ้นศักยภาพเวียดนาม และขยายโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทระดับโลกและไทย ที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จาก FDI และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม และลงทุนแบบ Bottom-up กระจายอุตสาหกรรม กระจายประเทศ ลงทุนไม่ยึดติดดัชนีอ้างอิง ครอบคลุมหุ้นทุกขนาด ขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก เพื่อโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม
- จุดแข็งของกองทุน
กลยุทธ์ลงทุนผสมระหว่างหุ้นเวียดนามและหุ้นต่างประเทศที่เข้าไปลงทุน/ดำเนินกิจการในเวียดนาม และ บริหารจัดการโดยทีมบริหารกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและเวียดนาม พร้อมด้วยความร่วมมือกับทีม PRINCIPAL ในระดับภูมิภาค เพื่อคัดเลือกธุรกิจและบริษัทที่มีศักยภาพดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาตลาดลงทุน พิสูจน์ผลงานทีมผู้จัดการกองทุนที่บริหารกองทุนเวียดนาม PRINCIPAL VNEQ กองทุนเวียดนามอันดับหนึ่งของประเทศไทย
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน /PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุน PRINCIPAL VNEQ ใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน
Copyright @ 2021 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ :
(1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล
(2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่
(3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต