แนะนำซื้อหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐฯ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณเบื้องต้น ผ่อนคลายนโยบายภาษี และแนะนำขายหุ้นจีนเทคฯ ตามกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น

บลจ.พรินซิเพิล แนะนำนักลงทุนซื้อหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐฯ ผ่านกองทุน PRINCIPAL GLEADER และ PRINCIPAL USEQ ตามลำดับ หลังเริ่มเห็นสัญญาณที่ผ่อนคลายของนโยบายการขึ้นภาษีจากโดนัลด์ ทรัมป์ และตลาดหุ้นโลกและสหรัฐฯ ปรับฐานจนมูลค่าอยู่ที่ระดับเหนือค่าเฉลี่ยเล็กน้อย หนุนการลงทุน อีกทั้งเรายังแนะนำนักลงทุนขายหุ้นจีนเทคฯ หลังเริ่มเห็นสัญญาณทางเทคนิคเริ่มอ่อนแอ และตลาดได้ตอบรับประเด็นบวกต่าง ๆ ไปค่อนข้างเยอะแล้ว

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนสามารถฟื้นตัวได้แข็งแกร่งโดยดัชนี S&P 500 +1.76% และดัชนี Nasdaq +2.27% หลังโดนัลด์ ทรัมป์แถลงการผ่อนปรนภาษีตอบโต้ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ โดยระบุว่าอาจจะยกเว้นภาษีดังกล่าวให้กับหลายประเทศ และจะใช้ภาษีเฉพาะกับสินค้าที่มีลักษณะเจาะจงเท่านั้น เช่น ไม้ หรือชิปเซมิคอนดักเตอร์ แทนที่จะเป็นสินค้าโดยทั่วไป 

นอกจากนี้ตลาดหุ้นโลก และหุ้นสหรัฐฯ ได้ปรับฐานจากจุดสูงสุดแล้วประมาณ 4% และ 6% ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าตลาดโดยรวมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแกร่ง แนะนำนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ PCE ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์นี้ เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เฟดมักจะใช้ประกอบการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต  

บลจ.พรินซิเพิล มองว่าจากแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ท่าทีการใช้นโยบายภาษีที่ผ่อนคลายมากขึ้น และมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวน้อยลงจะช่วยหนุนภาวะการลงทุนทั้งตลาดหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐฯ ต่อได้ในระยะสั้น เราจึงแนะนำซื้อกองทุนหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐฯ จากกลยุทธ์การลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น (Tactical Call) ผ่าน PRINCIPAL GLEADER และ PRINCIPAL USEQ อีกทั้งเราแนะนำขายหุ้นจีนเทคฯ เนื่องจากเห็นสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มอ่อนแอ และมองว่าตลาดรับรู้ประเด็นบวก เช่น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ไปค่อนข้างเยอะแล้ว จึงมองว่า upside ในอนาคตค่อนข้างจำกัด 

Image

คำเตือน:
ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GLEADER ลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรป ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต