แนะนำซื้อหุ้นเอเชียผ่าน PRINCIPAL APDI ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า และมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

Image

 

  • บลจ.พรินซิเพิล แนะนำนักลงทุนซื้อหุ้นเอเชียผ่านกองทุน PRINCIPAL APDI ตามกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น (Tactical Call) จากดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงส่งผลให้เงินทุนไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชีย, มูลค่าตลาดหุ้นเอเชียอยู่ในระดับไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และนักวิเคราะห์ปรับประมาณการณ์กำไรหุ้นขึ้นนำโดยตลาดหุ้นจีน

  • ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับขึ้นจากปัจจัยบวกคือการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟดมีแนวโน้มใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น หลังอัตราเงินเฟ้อสหรัฐทั้ง CPI และ PPI ล่าสุดที่ประกาศออกมา ต่ำกว่าการคาดการณ์, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง และนโยบายการขึ้นภาษีต่อประเทศคู่ค้าของโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจเชิงลบได้ โดยเฟดอาจส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 – 3 ครั้งในปีนี้ จากผลการประชุมที่จะออกในวันพรุ่งนี้

  • มูลค่าตลาดหุ้นเอเชีย (MSCI Asia Pacific Index) อยู่ในระดับที่ไม่แพง โดย Forward P/E อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ -0.3 SD อีกทั้ง Bloomberg Consensus ปรับประมาณการณ์กำไรของตลาดหุ้นเอเชียขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนม.ค. ปีนี้ ซึ่งนำโดยตลาดหุ้นจีน โดยล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจของจีนค่อนข้างแข็งแกร่ง เช่น ยอดค้าปลีกในเดือนก.พ. เติบโต 4.0% YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.8% YoY หรือการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเติบโต 4.1% YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.2% YoY แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเบื้องต้นของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

  • แนะนำลงทุนใน PRINCIPAL APDI เนื่องจากกองทุนเน้นลงทุนคุณภาพดี ขนาดใหญ่ทั้งเอเชีย มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี มีสัดส่วนหลักคือหุ้นจีน 37% ไต้หวัน 13.3% สิงคโปร์ 10.7% และมีตัวอย่างหุ้นที่น่าสนใจคือ TSMC บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ชชื่อดังของไต้หวัน หรือ Alibaba บริษัท E-Commerce มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเบอร์ 1 ของประเทศจีน

    Image


    คำเตือน:
    ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL APDI ลงทุนกระจุกตัวในฮ่องกง ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย/ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต