เวียดนามเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ธนาคารโลกปรับประมาณการณ์ GDP เวียดนาม คาดโต 6.1% ในปีนี้ และ 6.5% ในปี 2025 และ 2026 ได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนตลาดหุ้นเวียดนามเดินหน้าเติบโตต่อ
ในช่วง 7 เดือนของปี 2024 ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าปัจจจัยพื้นฐานของเวียดนามยังแข็งแกร่งโดยเฉพาะภาคการผลิตและการส่งออก ซึ่งส่งผลให้ภาคการบริโภคเติบโตตาม โดย GDP เวียดนามไตรมาสที่ 2/2024 โตถึง 6.93% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) จากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอตามความต้องการโลกที่เพิ่มขึ้น ภาคการผลิตของเวียดนามถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดและมีแรงงานในระบบจำนวนมาก ดังนั้นการขยายตัวของการผลิตส่งผลให้ประชาชนมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นสะท้อนผ่านตัวเลขค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ก.ค. ที่โตเหนือ 9% YoY ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 นอกจากการส่งออกสินค้าที่เติบโตได้ดี การส่งออกด้านบริการอย่างการท่องเที่ยวก็ปรับดีขึ้นเช่นกัน ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในเวียดนามรวม 10 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2019 ช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 จากตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมที่สะท้อนการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ธนาคารโลก หรือ World Bank จึงได้ปรับตัวเลข GDP ของเวียดนามขึ้นโดยคาดว่าเวียดนามจะสามารถโตเหนือ 6% ได้สม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2027
ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดวิกฤติใน 3 ปีที่ผ่านมามีพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลาดคาดการณ์ว่าที่อยู่อาศัยเวียดนามจะโตได้ถึง 9% ในปี 2024 โดยเฉพาะเมืองทางเหนืออย่างฮานอยที่มีการออกโครงการใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่มีจำนวนมาก แต่ด้วยจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่มีน้อยกว่าความต้องการจึงคาดว่าราคาของอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียมมือหนึ่งและมือสองจะปรับขึ้นได้ถึง 18% และ 22% ตามลำดับในปี 2024 ในขณะที่เมืองทางใต้อย่างโฮจิมินห์มีจำนวนโครงการใหม่เกิดขึ้นน้อยกว่าฮานอย รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยมือหนึ่งและมือสองก็มีโอกาสโตน้อยกว่าเช่นกัน
ตลาดหุ้นเวียดนามโตได้อย่างต่อเนื่อง VN Index ปรับขึ้นถึง 12% ภายในช่วงเดือน ม.ค. ถึงวันที่ 27 ส.ค. 2024 ถึงแม้ว่าสถานะของนักลงทุนต่างชาติยังเป็นยอดขายสุทธิ (Net Outflow) จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงต้นปีแรกทีผ่านมา ทั้งนี้การไหลออกของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติไม่ได้ทำให้มีผลกระทบกับตลาดหุ้นเวียดนามมากนักเนื่องจากมีสัดส่วนรวมกันไม่เกิน 30% ของสภาพคล่องที่เกิดทั้งหมด นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดเป็นนักลงทุนรายย่อยที่มีความเชื่อมั่นในปัจจัยมหภาคของเวียดนาม การปรับขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนามได้อานิสงค์จากการการปรับขึ้นของกลุ่มธนาคารที่มีสัดส่วนมากที่สุดในดัชนีเนื่องจากสินทรัพย์ของธนาคารเฉลี่ยแล้วมีคุณภาพดีขึ้นและมีการเติบโตของสินเชื่อ ราคาของตลาดหุ้นเวียดนาม VN Index ยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ประมาณ -0.5 SD (ที่มา Bloomberg, วันที่ 26 ส.ค. 2024) เป็นจังหวะที่นักลงทุนเข้าซื้อได้โดย บลจ. พรินซิเพิลมีเป้าหมายของ VN Index ที่ 1,330 จุดในปีสิ้นปีนี้
แนะนำกองทุน PRINCIPAL VNEQ และ PRINCIPAL VNEQRMF สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A สร้างผลตอบแทนตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. ได้ถึง 19.66% สูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบที่ -0.05% กองทุนลงทุนโดยตรงในประเทศเวียดนามโดยเฉพาะในบริษัทที่มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง มีปัจจัยการเติบโตในระยะยาวที่ดีและมีธรรมาภิบาล กองทุนมีกลยุทธ์ลงทุนในกลุ่มการบริโภคมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี เน้นกระจายการลงทุนมากขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
*ผลตอบแทนที่มีอายุเกินหนึ่งปีจะแสดงเป็นผลตอบแทนต่อปี (Annualized Return)
ที่มา: CBRE วันที่ 30 มิ.ย. 2024, Bloomberg วันที่ 26 ส.ค. 2024, World Bank วันที่ 26 ส.ค. 2024 เกณฑ์มาตรฐานที่ใช้ : TFVTTU Index (THB) 100% (Source: Bloomberg ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567)
บทความวิเคราะห์เจาะลึกตลาดหุ้นเวียดนามครึ่งปีหลัง 2024 กองทุนเวียดนาม
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษี / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต