คงมุมมองบวกต่อกองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน เน้นย้ำน่าลงทุนได้ทั้ง PRINCIPAL GIFUH และ PRINCIPAL GIF

Image
50

 

  • กองทุนหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินของบริษัทจะปรับลดลงตามอัตราดอกเบี้ย และ Market Sentiment ที่มีแนวโน้มดีขึ้น แนะนำ PRINCIPAL GIFUH (ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน) และ PRINCIPAL GIF ที่มีกองทุนหลักเหมือนกันคือ Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ซึ่งเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้มั่นคง มีความต้องการสม่ำเสมอ เป็นกิจการผูกขาด (Preferred Infrastructure) 

  • โดยกองทุน PRINCIPAL GIFUH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองลงทุนได้ระยะยาว เนื่องจากข้อมูลในอดีตชี้ในช่วง 5 ปีขึ้นไปค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย และนักลงทุนจะประหยัดต้นทุนป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging Cost) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.5 – 3.0% ต่อปี ทั้งนี้โดยข้อมูลตลาดของ Bloomberg Consensus ยังคงคาดว่าค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงปลายปีนี้ จนถึงครึ่งแรกของปีหน้า แสดงถึงความน่าสนใจของกองทุน PRINCIPAL GIFUH โดยสามารถทยอยสะสมได้อาศัยจังหวะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าในระยะสั้นตามมุมมองของตลาด ในขณะที่ PRINCIPAL GIF จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการมีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

  • ในรายงานฉบับที่แล้ว บลจ.พรินซิเพิลแนะนำการลงทุนสินทรัพย์ประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมถึงกลุ่ม Infrastructure ซึ่งมีแรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed (อ่านเพิ่มเติม) อย่างไรก็ตามกองทุนรวมหุ้นโครงสร้างพื้นฐานถือว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์เช่นกัน โดยเราแนะนำการลงทุนในกองทุน PRINCIPAL GIFUH และ PRINCIPAL GIF ที่มีกองทุนหลักเหมือนกันคือ Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ที่มีผลงานย้อนหลังดีสม่ำเสมอเอาชนะดัชนีเทียบเคียงได้อย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ที่ 9.17% ต่อปี ขณะที่ดัชนีเทียบเคียง (Global Infrastructure Index) ให้ผลตอบแทนเพียง 7.92% ต่อปี (Source: Lazard Presentation as of 31 July 2024)

  • Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund เน้นลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานประเภท Preferred Infrastructure ทั่วโลก คือเป็นหุ้นที่มีรายได้มั่นคง มีความต้องการสม่ำเสมอ เป็นกิจการผูกขาด และมีอายุสินทรัพย์ยาวนาน เช่น ทางด่วน โรงไฟฟ้า สนามบิน หรือเสาโทรคมนาคม โดยกองทุนมี Dividend Yield ที่ 4.7% (Source: Lazard Global Listed Infrastructure presentation as of July 2024) 

  • ตัวอย่างหุ้นในกองทุนที่น่าสนใจ เช่น Ferrovial ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำระดับโลกที่ตั้งอยู่ในสเปน บริษัทดำเนินธุรกิจในภาคการก่อสร้าง การบริการ ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง และสนามบิน เป็นเจ้าของโครงสร้างสัมปทานทางด่วนที่ใหญ่ที่สุดในรัฐออนแทริโอ ในแคนาดา ความยาว 20 ไมล์ ระยะเวลาสัมปทานตั้งแต่ปี 2012-2045 หรือ Norfolk Southern ผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ประกอบไปด้วยเส้นทางมากกว่า 19,100 ไมล์ในกว่า 22 รัฐ 

  • PRINCIPAL GIFUH ที่ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Unhedged) เหมาะกับนักลงทุนที่มุมมองการลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป เนื่องจากค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ 5 ปีย้อนหลังอ่อนค่าเพียงเล็กน้อยที่ประมาณ 1.16% (Average 5Y p.a. from 2019 to 2023) และยังสามารถช่วยนักลงทุนประหยัด Hedging Cost ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.5 – 3% ต่อปี โดยค่าเฉลี่ยของ Bloomberg Consensus มองค่าเงินบาท/ดอลลาร์จะอ่อนค่าอยู่ที่ 34.3, 34.0 และ 33.9 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงไตรมาส 4 2024, ไตรมาส 1 2025 และ ไตรมาส 2 2025 ตามลำดับ ซึ่งแสดงถึงความน่าสนใจต่อการลงทุนใน PRINCIPAL GIFUH โดยนักลงทุนสามารถซื้อสะสมและใช้จังหวะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าตามมุมมองตลาด ขณะที่ PRINCIPAL GIF เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน 

    Image
    40

     

    คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GIF และ PRINCIPAL GIFUH-A กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH-A จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต