ตลาดหุ้นเวียดนามมี Downside จำกัดมากขึ้น หลังลงมาทดสอบบริเวณ 1,200 จุด แต่พื้นฐานยังแกร่ง สามารถทยอยสะสมได้ ด้วยมุมมองระยะกลาง-ยาว
•ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความชัดเจนว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐฯ ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัย เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์ที่จะมีผลบังคับใช้ โดยตลาดหุ้นเวียดนามเป็นหนึ่งตลาดหุ้นทีได้รับผลกระทบเช่นกัน VN Index ปรับตัวลงประมาณ 3.5% ตั้งแต่รู้ผลการเลือกตั้ง
•โดยตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงที่ผ่านมามีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก และนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นสัดส่วนหลักของปริมาณซื้อขายของตลาดยังไม่ได้มีความมั่นใจต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจากความกังวลต่อนโยบายของทรัมป์ ขณะที่นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น
•อย่างไรก็ตามหากมองภาพระยะยาวมากขึ้น เวียดนามจะเป็นประเทศที่ได้ผลประโยชน์จากนโยบาย China+1 (กลยุทธ์ทางธุรกิจที่กระจายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน) เนื่องจากสถานที่ตั้งประเทศเวียดนามอยู่ใกล้กับฐานการผลิตในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีนมากกว่าประเทศอื่น ๆ เช่น ไทย, มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย และเวียดนามก็มีข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ เช่น AFTA หรือ CPTPP ที่ช่วยส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติ อีกทั้งประชาชนในเวียดนามส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน และเป็นแรงงานที่มีคุณภาพดี
•อีกทั้ง VN Index ที่ระดับใกล้ 1,200 จุดมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีมูลค่า (Forward P/E) อยู่ที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ทำให้ Downside เริ่มจำกัดมากขึ้น โดยนักลงทุนสามารถทยอยสะสมด้วยมุมมองระยะกลาง-ยาว ซึ่งมีปัจจัยบวกในปีหน้าที่สำคัญคือเวียดนามจะเข้าร่วมคำนวณในตลาดเกิดใหม่ของ FTSE ในช่วงเดือน ก.ย. และจะเข้าไปอยู่ใน Waiting list ในช่วงเดือนมี .ค. ปีหน้า ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ Fund Flow จะไหลเข้าอย่างมีนัย และสภาพคล่องของตลาดโดยรวมจะเพิ่มขึ้น
•PRINCIPAL VNEQ: ทีมผู้จัดการกองทุนได้ลดสัดส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของเวียดนามตั้งแต่ในช่วงเดือน ก.ย. เพื่อเตรียมรับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ดังนั้นคาดกว่าผลกระทบจากนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ต่อพอร์ตการลงทุนจะจำกัด โดยในไตรมาส 4/2567 นี้ ทีมผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนคุณภาพดี งบการเงินแข็งแกร่ง เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต เช่น กลุ่มการเงิน (Financial) โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อสูง เช่น Joint Stock Commercial Bank for Foreign Trade of Vietnam (VCB) และ Vietnam Prosperity Bank (VPB) หรือ กลุ่มสินค้าจำเป็น (Consumer Staples) เช่น Vietnam Dairy Products (VNM) นอกจากนี้จากการที่ผู้จัดการกองทุนถือสภาพคล่องมากขึ้นในช่วงที่ตลาดอยู่ที่ระดับประมาณ 1300 จุด ส่งผลให้เมื่อตลาดปรับฐานมาที่บริเวณ 1200 จุด กองทุนสามารถซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มูลค่าน่าสนใจมากขึ้นเข้าสู่พอร์ตการลงทุน โดยนักลงทุนสามารถอ้างอิงน้ำหนักการลงทุนได้ตามพอร์ตการลงทุนแนะนำตามระดับความเสี่ยงด้านล่าง
คำเตือน:
Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GREITs กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก / PRINCIPAL GREITs, PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GOPP กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต