ทยอยกระจายลงทุนหุ้นจีน จับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 12 ต.ค.นี้
แนะนำทยอยกระจายการลงทุน หุ้นจีน รับประโยชน์นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจับตาแถลงนโยบายการคลัง 12 ตุลาคมนี้
• จากที่ทาง บลจ.พรินซิเพิล ได้แนะนำซื้อหุ้นจีนในกลยุทธ์ Tactical Call (มุมมองระยะสั้น) ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. (อ่านเพิ่มเติม) จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นจีนก็ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามในมุมมองระยะกลางถึงยาวเราเริ่มเห็นถึงศักยภาพของหุ้นจีนที่มีโอกาสกลับมาสร้างผลงานดีได้อีกครั้ง จากความพยายามภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังต่อเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 5% โดยเตรียมจัดการแถลงมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมวันที่ 12 ต.ค. นี้ รวมถึงเงินลงทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้าสู่หุ้นจีนอย่างมีนัยก็เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญเช่นกัน อย่างไรก็ตามหุ้นจีนยังมีความผันผวนสูงในปัจจุบัน แนะนำนักลงทุนทยอยลงทุนผ่าน PRINCIPAL CHEQ ตามระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ อ้างอิงตามพอร์ตแนะนำด้านล่าง
• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนได้ประกาศออกมา เริ่มที่จะทยอยใช้ในทางปฏิบัติแล้ว ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้จัดตั้งเครื่องมืองทางการเงินเพื่อที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องต่อตลาดหุ้นแก่นักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนวงเงินถึงประมาณ 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งจำนวนวงเงินนี้สามารถขยายเพิ่มเติมได้ในอนาคต โดยมาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการชุดใหญ่ที่ประกาศในปลายเดือนก.ย.
• นอกจากนี้ทางการจีน นำโดยคุณนายหลัน ฝออัน รัฐมนตรีคลังจีน เตรียมแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชน ในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่านโยบายทางการคลังเพิ่มเติมจะมีมูลค่าถึง 2.8 แสนล้านดอลลาร์ (Source: Bloomberg as of 9 October 2024)
• PRINCIPAL CHEQ: ลงทุนในกองทุนหลักชื่อ Schroder ISF All China Equity เน้นลงทุนหุ้นจีนคุณภาพ เติบโตดี ทั้งตลาด Onshore และ Offshore เช่น China A share, H shares, ADR (Unconstrained) พอร์ตการลงทุนปัจจุบันเป็นหุ้นที่ทางทางรัฐบาลจีนให้สนับสนุนเช่น Clean energy, EV battery และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของการบริโภค เช่น Alibaba Group, Tencent และ Meituan
• ลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่านกองทุนจีน บลจ.พรินซิเพิล PRINCIPAL CHEQ และ CHTECH
คำเตือน:
Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
• สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
• ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GREITs, กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก / PRINCIPAL GREITs, PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH-A กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL CHEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL KEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศเกาหลี ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL INDIAEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศอินเดีย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH-A จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต