เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาส 3/2024 โต 7.4% แม้กันยายนเจอพายุไต้ฝุ่นยางิ
การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Production: GDP) ของเวียดนามยังโตได้ต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 1 ถึงไตรมาสที่ 3/2024 โต 5.87% 7.09% และ 7.4% ตามลำดับ ทั้งนี้พายุไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ที่เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับเวียดนามโดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนส่วนใหญ่และทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามในไตรมาส 3 ไม่ได้ปรับขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ในแง่ของตัวเลขความเสียหาย มีการคาดการณ์ว่าไต้ฝุ่นยางิได้สร้างความเสียหายถึง 1,630 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าความเสียหายจากพายุสูงที่สุดตั้งแต่ปี 1997 อย่างไรก็ตามหากพิจารณาความเสียหายต่อตัวเลข GDP ในแต่ละช่วงเวลาแล้วนั้น พายุยางิจะส่งผลลบกับ GDP เพียงประมาณ 0.36% เท่านั้น โดยส่งผลกระทบกับภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมงมากที่สุด โดยภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมงมีสัดส่วนเพียงประมาณ 10% ของ GDP รวมของประเทศเท่านั้น
การเติบโตของ GDP ในไตรมาส 3 เกิดจากการขยายตัวของหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ภาคการบริโภคเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคิดเป็น 2 ใน 3 ของการเติบโตที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยการบริโภคได้ปรับขึ้นถึง 7.02% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว การเติบโตของการบริโภคเป็นผลมาจากการเติบโตของภาคการผลิตและการส่งออกที่เติบโตดีในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและมีแรงงานจำนวนมากในระบบ ทำให้แรงงานจำนวนมากมีรายได้ที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและมีกำลังการบริโภคมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 นอกจากนี้ตัวเลขการส่งออกก็ปรับขึ้นถึง 15.68% ภาคอุตสาหกรรมและการผลิตโตถึง 9.11% สูงกว่าตัวเลขไตรมาส 2 ที่โต 8.60% ภาคบริการโตขึ้น 7.51% ในไตรมาส 3 สูงกว่าไตรมาส 2 ที่โต 7.10% โดยภาคเกษตรกรรมไตรมาส 3 โตเพียง 2.58% ต่ำกว่าตัวเลขไตรมาส 2 ที่ 3.64% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยางิที่ทำให้เกิดความเสียหายกับผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว และปศุสัตว์
กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ หรือ PRINCIPAL VNEQ ได้มีปรับกลยุทธ์การลงทุนต่อเนื่องเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพตลาด ช่วงสิ้นสุดของครึ่งปีแรก ทีมการลงทุนได้ตระหนักถึงโอกาสในการลงทุนในกลุ่มด้านการบริโภคจึงได้เพิ่มน้ำหนักในอุตสาหกรรมค้าปลีก สินค้าฟุ่มเฟือย และธุรกิจที่เกี่ยวกับการอุปโภค/บริโภคอื่น ๆ สอดคล้องกับตัวเลข GDP ภาคการบริโภคที่ดีขึ้นในไตรมาส 3 ทำให้ได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการคัดเลือกหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 3 PRINCIPAL VNEQ-A สร้างผลตอบแทน 9 เดือนแรกได้ถึง 14.87% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่สร้างผลตอบแทน -4.44% และสูงกว่าดัชนี VN Index ที่โตประมาณ 10%
กองทุนยังมุ่งมั่นลงทุนในธุรกิจที่มีคุณภาพ การเติบโต และธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจระยะยาว และมีการลงพื้นที่จริงที่ประเทศเวียดนามเฉลี่ยไตรมาสละครั้ง เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารของธุรกิจที่สนใจลงทุน เพื่อสำรวจตลาดในพื้นจริง และหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อจัดทำบทวิเคราะห์ภายใน (Internal Research) ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกต่อการคัดเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ตการลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน / Morning Star Copyright @ 2024 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต