จีนตอบโต้สหรัฐฯ โดยขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ 10-15% เตรียมรับมือความผันผวนด้วย PRINCIPAL GLEADER ลงทุนหุ้นชั้นนำระดับ Leaders เติบโตสูงอย่างยั่งยืน
ความขัดแย้งทางการค้าเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุดจีนได้ตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 10 – 15% เพิ่มเติม และทางการจีนกำลังสอบสวนบริษัท Google ข้อหาละเมิดกฎหมายการต่อต้านการผูกขาด โดยความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มมีความผันผวนมากขึ้นซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ บลจ.พรินซิเพิล คาด
อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าตลาดหุ้นโลกนำโดยหุ้นสหรัฐฯ จะให้ผลตอบแทนที่ดีในปีนี้ โดยแนะนำลงทุนใน PRINCIPAL GLEADER ในฐานะพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) เนื่องจากกองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น Microsoft, Alphabet หรือ TSMC ซึ่งจะมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจำกัดจากสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น และหนุนให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้อย่างยั่งยืน
จีนตัดสินใจเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ เช่น ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LPG) ที่ 15%, น้ำมันเชื้อเพลิงและเครื่องมือเกษตรที่ 10% เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่เริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเริ่มตอนต้นเดือน ขณะเดียวกันทางการจีนประกาศว่ากำลังสอบสวนบริษัท Google ในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในจีน โดยมาตรการเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่จีนก็พร้อมที่จะตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกัน โดย บลจ.พรินซิเพิล ยังมองตลาดหุ้นโลกมีโอกาสผันผวนทั้งปีจากความเสี่ยงเรื่องความขัดแย้งทางการค้า แต่จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีหนุนโดยนโยบายส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์, กำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
เราแนะนำลงทุนใน PRINCIPAL GLEADER (IPO: 4 -11 ก.พ. 68) (คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอเพิ่มเติม) ในสัดส่วนที่เป็นพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) ด้วย 4 จุดเด่นหลักคือ
1.คัดเลือกบริษัทชั้นนำ เติบโตอย่างยั่งยืน: เน้นลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพสูง มีการเติบโตดีอย่างยั่งยืน และเป็นผู้นำของตลาด มีกระบวนการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผู้บริหาร เพื่อพยายามสร้างโอกาสรับผลตอบแทนบวกเชิงเปรียบเทียบในการลงทุนในทุกสภาวะตลาด
2.ใช้กลยุทธ์พิเศษเพิ่มความแม่นยำบริหารพอร์ตลงทุน: ผู้จัดการกองทุนทำงานร่วมกับ Behavioral Coach เพื่อมุ่งเน้นลดอคติต่อการลงทุน (Investment Bias) ให้ได้มากที่สุด โดยมีการพัฒนากระบวนการลงทุนให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เช่น Drawdown Review และ Selling Strategy
3.ลงทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลกในทั้งตลาดพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่: เน้นคัดเลือกหุ้นด้วยสไตล์ Bottom up ถือหุ้น 30-40 บริษัท อุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักอันดับ 1 คือกลุ่มการเงิน (Finance) และมีสัดส่วนตลาดเกิดใหม่ (EM) ราว 30%
4.ผลงานเด่นสม่ำเสมอ เหมาะสมเป็น Core Portfolio: สร้างผลการดำเนินงานระยะยาวโดดเด่นสม่ำเสมอปีละประมาณ 12% ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว (Source: Brown Advisory Global Leaders Fund Presentation as of September 2024)
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GLEADER ลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรป ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้/ Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต