PRINCIPAL VNEQ ครองแชมป์ อันดับหนึ่ง 2 ปีต่อเนื่อง หุ้นเวียดนามเตรียมเข้าสู่ waiting list เพื่อการอัปเกรดสู่ EM Market การลงทุนของรัฐบาลพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อปีนี้

Image

 

  • กองทุน PRINCIPAL VNEQ ยังคงมีผลการดำเนินงานโดดเด่นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 2 ปีในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย ประเภทนักลงทุนทั่วไป และได้รับการจัดอันดับ Morningstar ระดับ 5 ดาวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2024 ให้อัตราผลตอบแทน 15.70% สูงกว่า Benchmark (FTSE Vietnam Index) ที่ -7.10% หรือสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ได้ถึงราว 22.8% 

  • ในปีนี้ตลาดหุ้นเวียดนามมีหลากหลายปัจจัยบวกรออยู่ เช่น การถูกอัปเกรดเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ โดยจะเข้าไปสู่ waiting list ในช่วงเดือนมี.ค. นี้ หรือการใช้จ่ายของรัฐบาลในโปรเจคใหญ่ ๆ ภายใต้ผู้นำคนใหม่พล.อ.เลือง เกื่องที่เน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน หลังการใช้จ่ายภาครัฐในช่วง   2 – 3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าอนุมัติโครงการ เพราะกังวลนโยบาย Anti-Corruption โดยรัฐบาลเวียดนามมีแผนออกขายพันธบัตรในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 25% YoY มูลค่าถึง 500 ล้านล้านเวียดนามดอง เนื่องจากหนี้สาธารณะต่อ GDP ของเวียดนามอยู่ในระดับต่ำที่ 36% (เพเดานอยู่ที่ 65%) โดยรัฐบาลพร้อมมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางด่วน, รางรถไฟ, ท่าเรือ หรือสนามบิน 

  • นโยบาย China+1 จะเปิดโอกาสให้ต่างชาติมาลงทุน สร้างโรงงานที่ประเทศเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในยุคสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ 2.0 เนื่องจากเวียดนามมีต้นทุนของการผลิตสินค้าที่ถูกเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าเช่าโกดังเก็บสินค้า และค่าแรง ในขณะที่แรงงานมีคุณภาพที่ดี นอกจากนี้ในปี 2024 ถือว่าเป็นปีที่เวียดนามประสบความสำเร็จในแง่ของการดึงดูดบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายจากทั่วโลกเข้ามาลงทุน เช่น Nvidia ที่ก่อตั้งศูนย์วิจัย AI และ Data Centers ในเวียดนาม, Apple กำลังวางแผนขยายการลงทุนในเวียดนามเพิ่มเติม, Space X บริษัทด้านอวกาศของ Elon Musk ที่เตรียมลงทุนถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในประเทศเวียดนาม หรือ Google ที่เตรียมเปิดตัว Google เวียดนามเร็ว ๆ นี้ ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของ FDI อย่างสูงในอนาคตของเวียดนาม 

  • อย่างไรก็ตามในระยะสั้น ๆ ตลาดหุ้นเวียดนามอาจมีความผันผวนบ้างจากนโยบายด้านการค้าที่ยังไม่แน่นอนของโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตามเวียดนามมีมูลค่า Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ (Forward P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เราจึงมองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีต่อการซื้อสะสมเพื่อเตรียมรับปัจจัยบวกต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น

  • PRINCIPAL VNEQ: ทีมผู้จัดการกองทุนยังเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ คุณภาพดีเป็นหลัก เช่น กลุ่มธนาคาร เนื่องจากจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสต่ำที่จะถูกปรับประมาณการผลประกอบการลง และมีสัดส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกต่ำมาก ทำให้ผลกระทบของนโยบายด้านภาษีการค้าของทรัมป์จำกัด โดยบลจ.พรินซิเพิลคาดการณ์ว่ากำไรของตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสที่จะโตถึง 22% ในปีนี้ และมองว่าช่วงไตรมาส 2 ตลาดมีแนวโน้มที่จะรับรู้ข่าวเชิงลบจากนโยบายช่วง 100 วันแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไปทั้งหมดแล้ว ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มเติบโตได้แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนสามารถอ้างอิงน้ำหนักการลงทุนได้ตามพอร์ตแนะนำด้านล่าง

     

Image

 

Image

 

Image

 

คำเตือน: 
Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
•    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income” 
•    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
•    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
•    ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL GREITs กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก / PRINCIPAL GREITs, PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT, PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GOPP กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน/ Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต