รัฐบาลเวียดนามอนุมัติสร้างทางรถไฟเชื่อมจีน มูลค่า 2.7 แสนล้านบาท และมีแผนปรับโครงสร้างรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากขื้น

Image

 

  • จากที่รัฐบาลเวียดนามได้วางแผนงบประมาณสำหรับการลงทุนในปีนี้มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เติบโตถึง 17% YoY และสูงขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับแผนงบประมาณครั้งที่แล้ว เพื่อที่จะส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 8% ซึ่งจะเน้นในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางด่วน, รางรถไฟ, ท่าเรือ หรือสนามบิน เป็นหลัก โดยล่าสุดรัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติโครงการก่อสร้างทางรถไฟมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท ระยะทาง 390 กิโลเมตร จากเมืองท่าไฮฟองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สู่เมืองหล่าวกายติดกับมณฑลยูนานของจีน และคาดว่าเริ่มสร้างได้จริงก่อนช่วงสิ้นปีนี้ 

  • โดยการก่อสร้างเส้นทางรถไฟนี้มุ่งหวังที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ และกระตุ้นการค้าของทั้งสองประเทศ จากการช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งสินค้าของเวียดนามที่ส่งออกไปจีน และสินค้าจีนที่เวียดนามนำเข้าเพื่อเป็นวัตถุดิบการผลิต เนื่องจากเส้นทางนี้ผ่าน 7 จังหวัด และศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของเวียดนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำอย่าง Samsung, Foxconn และ Pegatron รวมถึงรถไฟที่ใช้เส้นทางนี้จะสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากของเก่าที่วิ่งได้แค่ความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น โดยทางบลจ.พรินซิเพิลมองว่าการอนุมัติโครงการนี้ตั้งแต่ต้นปีถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้าที่ประมาณ 7% โดยเฉลี่ย

  • นอกจากนี้รัฐสภาของเวียดนามได้อนุมัติแผนปรับโครงสร้างรัฐบาลใหม่ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1990 เช่น การลดจำนวนพนักงานที่ทำงานภายใต้รัฐบาลลง 20%, การยุบกระทรวงที่ไม่สำคัญ 5 กระทรวง และการควบรวมบางกระทรวงเข้าด้วยกัน เพื่อการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแผนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรัฐบาลครั้งสำคัญนี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยบวกต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามเช่นกัน 

  • บลจ.พรินซิเพิลมีมุมมอง Slightly Overweight ต่อหุ้นเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง เช่น ยอดส่งออก, FDI การบริโภคในประเทศ หรือจำนวนนักท่องเที่ยว และมีปัจจัยบวกสำคัญหลัก ๆ ในปีนี้คือการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจำนวนมาก และการควบรวมหุ้นเวียดนามในดัชนี FTSE Emerging Markets ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.ปีนี้ รวมถึงหุ้นเวียดนามมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ (Forward P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ในขณะที่การเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับสูง แนะนำนักลงทุนสามารถซื้อสะสมในพอร์ตการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ 

  • PRINCIPAL VNEQ: เน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ คุณภาพดีเป็นหลัก เช่น หุ้นกลุ่มธนาคารที่มี Credit Growth ที่ดีในอนาคต เนื่องจากจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสต่ำที่จะถูกปรับประมาณการผลประกอบการลง ขณะที่เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่ง และกองทุนมีสัดส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกต่ำมาก ทำให้ได้รับผลกระทบที่จำกัดของนโยบายกีดกันภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยบลจ.พรินซิเพิลคาดว่าตลาดหุ้นจะทยอยรับรู้ปัจจัยบวกที่กล่าวไปข้างต้น ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยนักลงทุนสามารถอ้างอิงน้ำหนักการลงทุน ได้จากพอร์ตการลงทุนแนะนำด้านล่าง

    Image
    Image

     

  • คำเตือน: 
    Principal Asset Allocation Plan เป็นบริการการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Allocation) ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นการพิจารณาและประเมินภาวะการลงทุน เพื่อการสร้างและปรับพอร์ตอย่างสมดุล และอาจจะพิจารณาและนำเสนอการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนหรือปรับพอร์ตลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและสอดรับกับภาวะการลงทุน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการปรับเปลี่ยนไปจากสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม อาจทำให้พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงสูงหรือต่ำไปกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเข้าสู่สัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม Principal Asset Allocation Plan เป็นเพียงคำแนะนำของ บริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามคาดหวัง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจการจัดสรรการลงทุน (Basic Asset Allocation) ตามคำแนะนำของสำนักงาน ก.ล.ต.
    พอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการสัดส่วนการลงทุน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อลงทุนจริง ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด การลงทุนและโอกาสการลงทุนในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ประมาณการสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การรับประกันหรือยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
    คำอธิบายประกอบ Clients’ Portfolio Model 5 พอร์ตลงทุนแนะนำ
    •    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “ปานกลางค่อนข้างสูง” แนะนำพอร์ตการลงทุน “Income” 
    •    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูง” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income” และ “Balance”
    •    สำหรับผู้ลงทุนที่มีระดับความเสี่ยง “สูงมาก” ท่านสามารถลงทุนในพอร์ตการลงทุน “Income”, “Balance”, “Growth”, “Active Growth” และ “Global Growth”
    •    ทั้งนี้หากท่านผู้ลงทุนมีความประสงค์จะลงทุนในพอร์ตลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่าระดับความเสี่ยงการลงทุนของท่าน ท่านจะต้อง “ยืนยัน” รับทราบความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่ท่านได้เลือกลงทุน
    ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน /PRINCIPAL GQE, PRINCIPAL GESG, PRINCIPAL GCREDIT และ PRINCIPAL USEQ กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GOPP กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GIFUH กองทุนหลักลงทุนกระจุกตัวในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาเหนือ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL GLEADER ลงทุนกระจุกตัวในอเมริกาเหนือ และยุโรป ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย /  PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / PRINCIPAL DPLUS มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงอาจทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ดังนั้น บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุน ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว / PRINCIPAL GIFUH จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (unhedged) ดังนั้นกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้/บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging)ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน /ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน  
    https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน/ กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต