Principal Market Update: อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น เพิ่มโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นโอกาสเข้าสะสมกองทุนหุ้นโลก
14 September 2023
- เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 ได้มีการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ของเดือน ส.ค. 2566 โดยตัวเลขปรับขึ้นจากเดือน ก.ค. 2566 ในอัตรา 0.6% MoM (คิดเป็น 3.7% YoY) ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 3.6% YoY โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับขึ้นของราคาพลังงานในเดือน ส.ค. 2566 (ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.26% MoM จากเดือน ก.ค. 2566) ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาที่พักอาศัยซึ่งมีน้ำหนักประมาณหนึ่งในสามของดัชนีก็ยังปรับตัวขึ้นด้วย ในส่วนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปรับเพิ่มจากเดือน ก.ค. 2566 0.3% MoM (คิดเป็น 4.7% YoY) ในเดือน ส.ค. 2566.
- นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้กล่าวในงานสัมมนานโยบายเศรษฐกิจที่เมือง Jackson Hole, WY ว่าถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดจากจุดสูงสุดมาแล้วหลังจากมีมาตรการชะลอตัวเศรษฐกิจ แต่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูง หน้าที่ของ Fed คือการลดอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2% โดยจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยและคงดอกเบี้ยที่ระดับหนึ่งไว้จนกว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ
- จะเห็นได้ว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 2566 ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ Fed ตั้งไว้ จึงมีโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการ FOMC ที่เหลืออีก 3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 2566 และถ้าหาก Fed มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ก็จะทำให้แรงกดดันในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปีหน้าเพิ่มสูงขึ้นด้วย การลงทุนในตลาดหุ้นควรจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง
- บลจ.พรินซิเพิล แนะนำให้นักลงทุนจัดสรรการลงทุนหลักในหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพดี ผ่านกองทุนเปิด PRINCIPAL GQE และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนและธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน ผ่านกองทุนเปิด PRINCIPAL GESG และยังสามารถจัดสรรเม็ดเงินลงทุนบางส่วนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้เพื่อหาจับจังหวะเข้าซื้อเมื่อตลาดย่อผ่านการลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลกในด้วยกองทุนเปิด PRINCIPAL GOPP โดยในเบื้องต้นนักลงทุนอาจพิจารณา สัดส่วนประมาณ 10% - 15% ของการลงทุนในตราสารทุนเพื่อผ่านกระบวนการจัดสรรการลงทุน หรือ Asset Allocation ในส่วนนี้
- นอกเหนือจากนี้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ยังสามารถทำ Asset allocation เพิ่มเติม เพื่อหาโอกาสลงทุนในตลาดรายประเทศ เช่นตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงนี้ได้ด้วย โดยตลาดหุ้นเวียดนามยังมีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง และมูลค่าตลาดไม่แพง ผ่านกองทุนเปิด PRINCIPAL VNEQ ซึ่งเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานอันดับ 1 ประเภทกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทยในเดือน ส.ค. 2566 อีกด้วย (ที่มา: Morningstar Research ข้อมูล ณ วันที่ 12 กันยายน 2566)
กองทุนแนะนำ
- กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ A (PRINCIPAL GOPP-A)
- กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล อิควิตี้ ESG A (PRINCIPAL GESG–A)
- กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ควอลิตี้ อิควิตี้ A (PRINCIPAL GQE-A)
- กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ A (PRINCIPAL VNEQ-A)
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทําความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุน PRINCIPAL GESG และ PRINCIPAL GQE ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุน PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / กองทุน PRINCIPAL GESG มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดําเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต / Copyright @ 2023 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต