มุมมองการลงทุน กองทุน PRINCIPAL iPROP
Update ภาวะตลาด REITs
ในช่วงเดือน ม.ค. 2020 – ก.พ. 2020 ตลาด REITs ทั้งไทยและสิงคโปร์ มีทิศทางทรงตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวโน้ม ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ยังมีความต้องการลงทุนใน REITs อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่เดือน มี.ค. 2020 ตลาด REITs ปรับตัวลงจากความกังวลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ใน US/Europe ซึ่งเป็นการปรับตัวสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นโลก แต่เมื่อดูผลตอบแทน YTD (ณ วันที่ 12 มี.ค. 2020) ของดัชนีอ้างอิง จะพบว่า ตลาด REITs ปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้น ทัง้ ในไทยและในสิงคโปร์
ผลกระทบต่อกองทุน PRINCIPAL iPROP
การที่กองทุน PRINCIPAL iPROP ได้วางกลยุทธ์ Overweight Singapore REITs และ Infrastructure ในขณะที่ Underweight Thai REITs ทำให้กองทุนได้รับผลกระทบน้อยจากการที่ตลาด Thai REITs ปรับลงมากกว่าฝั่ง Singapore กองทุนจึงมีผลตอบแทน YTD (ณ วันที่ 12 มี.ค. 2020) อยู่ที่ -6.8% เทียบกับดัชนีอ้างอิงที่ได้ -8.9 % นับว่าสอดคล้องกับความตั้งใจที่จะทำให้พอร์ตมีความผันผวนน้อยกว่าดัชนีอ้างอิง (ผลการดำเนินงานนี้ไม่ได้จัดทำตามมาตรฐานที่สมาคมจัดการลงทุนกำหนด) มุมมองและคำแนะนำการลงทุน
บลจ. พรินซิเพิล มองว่า เป็นธรรมชาติของตลาด REITs ที่ราคาจะผันผวนคล้ายตลาดหุ้นในระยะสั้น แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาว ตั้งแต่ 5-7 ปีขึ้นไปการลงทุนใน REITs จะให้ผลตอบแทนคล้ายกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า คือ ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่า และอาจมีผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับลงของตลาด REITs ในช่วงนี้ จึงเป็โอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีที่มีราคาถูกลงมาก โดยมีผลตอบแทนคาดหวังสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2019
ผู้จัดการกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี มีอัตราการเช่าสูง และรายได้ค่าเช่ามัน คง โดยเน้นกลุ่ม Logistics, Data Centers, Office และ Infrastructures ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และแทบไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 พร้อมกับหลีกเลี่ยงกลุ่มโรงแรมซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 บลจ. พรินซิเพิล จึงขอแนะนำให้ผู้ลงทุนไม่ตกใจกับความผันผวนในตลาด ควรถือลงทุน หรือเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน PRINCIPAL iPROP เพราะเป็น “โอกาส” การเข้าลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีที่ราคาถูกกว่าเดิม
กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund)ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน / กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้/ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุน PRINCIPAL iPROP ใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน