Coronavirus / Wuhan Virus
ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชากรโลกค่อนข้างตื่นตระหนกกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นจากไวรัสตัวใหม่ที่เรียกว่า ไวรัสโคโรน่า (สายพันธุ์ใหม่ที่มีจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น (Wuhan) มณฑลหูเป่ย (Hubei) ประเทศจีนโดยพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกเป็นคนงานและลูกค้าของตลาดขายส่งอาหารทะเลฮั่วนาน (Huanan Seafood Wholesale Market) ซึ่งที่นั่นจำหน่ายทั้งอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และสัตว์ป่าที่ยังมีชีวิต จึงทำให้ไวรัสตัวดังกล่าวถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ไวรัสอู่ฮั่น) การแพร่ระบาดในครั้งนี้เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว จนมีรายงานว่า ณ ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าวไปแล้วกว่า 4000 ราย และชีวิตจากโรคดังกล่าวไปแล้วถึง 106 ราย (ที่มา: arcgis.com, data as of 8:30 pm 27 มกราคม 2020 เวลาไทย 8:30 นาฬิกา 28 มกราคม 2020 ) แน่นอนว่าความกังวลที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้ เมื่อประกอบกับช่วงเวลาที่โรคระบาดนั้นเกิดขึ้นในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จึงได้สร้างความเสียหายต่อภาคเศรษฐกิจในระยะสั้นค่อนข้างได้มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยวส่งผล อาทิ สนามบิน โรงแรม และบริษัททัวร์ ในขณะเดียวกัน Sentiment ในตลาดทุนเองก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน
Coronavirus คืออะไร
ไวรัสโคโรน่า ในครั้งนี้ มีชื่อทางการว่า Novel Coronavirus 2019 หรือ 2019-nCoV ซึ่งก็เป็นไวรัสในตระกูลเดียวกับ Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus (SARS-CoV) ที่เริ่มต้นจากจีนเมื่อปี 2002 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 813 ราย และ Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus (MERS-CoV) ที่เริ่มต้นจากซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2012 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 858 ราย คาดว่า Corona เป็นภาษาลาติน แปลว่า Crown หรือ มงกุฎ ซึ่งเป็นรูปร่างของเปลือกหุ้มอนุภาคไวรัสเมื่อส่งด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
ไวรัสโคโรน่ามีสารพันธุกรรมเป็น RNA จึงมีโอกาสกลายพันธุ์สูง(Mutation) และสามารถก่อการติดเชื้อข้ามสปีชีส์ได้ โดย
SARS-CoV | เป็นการข้ามสปีชีส์จาก | ค้างคาว -> ชะมด -> คน |
ส่วน MERS-CoV | เป็นการข้ามสปีชีส์จาก | ค้างคาว -> อูฐ -> คน |
และสำหรับ 2019-nCoV | มีรายงานว่า น่าจะเป็นการข้ามสปีชีส์จาก | ค้างคาว -> งูเห่า -> คน |
จากข้อมูล (ที่มา: arcgis.com, data as of 8:30 pm 27 มกราคม 2020 เวลาไทย 8:30 นาฬิกา 28 มกราคม 2020) มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 4,474 ราย อยู่ในจีน 4,409 ราย ประเทศอื่น 65 ราย และมีรายงานยอดผู้เสียชีวิตแล้ว 107 ราย โดยเกินครึ่งของผู้ติดเชื้อ และเกือบทั้งหมดของผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ในเมือง Wuhan และเมืองอื่นๆ ในมณฑล Hubei
มีรายงานว่า หากเทียบกับการจัดการปัญหา SARS-CoV เมื่อ 18 ปีก่อน ในครั้งนี้ทางการจีน “ลงมือ” เร็วกว่ามาก โดยได้มีการประกาศปิดเมือง ยกเลิกเที่ยวบินและรถโดยสาร ยกเลิก Group Tour ที่จะไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2020 เป็นต้นไป และได้ประกาศให้มีการยกเลิกกิจกรรมฉลองปีใหม่ และล่าสุดยังได้ขยายวันหยุดช่วงตรุษจีน ทั้งนี้เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีกด้วย
เทียบจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรค SARS และ ไวรัสอู่ฮั่นในเบื้องต้น
SARS(Final) | Wuhan (Current) | |
ตัวเลขจานวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน | 8096 | 4474 |
จำนวนผู้เสียชีวิต | 774 | 107 |
อัตราการตาย | 9.56% | 2.39 |
ที่มา: Principal Asset Management Company, arcgis.com, data as of 8:30 pm 27 มกราคม 2020 เวลาไทย 8:30 นาฬิกา 28 มกราคม 2020 |
สำหรับประเทศไทย รายงานล่าสุดพบว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นจานวน 8 ราย เป็นคนจีน 7 ราย และคนไทยอีก 1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และเกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งถึงปัจจุบัน รักษาตัวจนหายไปแล้ว 5 ราย เหลืออยู่ในการดูแลของแพทย์เพียง 3 รายเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่นนั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ทาง บลจ. พรินซิเพิล เชื่อว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าสุดท้ายแล้วอันตรายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด
ผลกระทบต่อตลาดทุน
สำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับตลาดทุนนั้น เชื่อว่านักลงทุนจำนวนไม่น้อยได้นาเหตุการณ์ดังกล่าวไปเปรียบทียบกับผลการดำเนินงานของตลาดทุนช่วงที่เกิดเหตุการณ์โรคระบาด SARS ในช่วงปี 2002-2003 โดยในช่วงที่เกิดโรคระบาด SARS (15 พฤจิกายน 2002- 12 มีนาคม 2003) นั้น ตลาดหุ้น Hong Kong (Hong Kong Hang Seng index) ได้ปรับตัวลดลงราว 10% ก่อนที่สถานการณ์การแพร่ระบาดจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้สาหรับนักลงทุนระยะยาวที่สามารถทนต่อความผันผวนที่เกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยดังกล่าวได้ และสามารถถือลงทุนได้จนถึงสิ้นปี ต่างก็ได้กาไรจากการทีราคาดัชนีหุ้นฮ่องกง Hong Kong Hang Seng index ในปี 2003 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 35%
ทั้งนี้สาหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นต่อตลาดทุน นักวิเคราะห์คาดว่า เมื่อเทียบเคียงกับ SARS การแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่นน่าจะทำให้ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะผันผวนได้ประมาณ 3-4 เดือน โดยคาดว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวฟื้นได้ เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มทรงตัวหรือปรับลดลง
สำหรับตลาดหุ้นไทย วานนี้ (27 มกราคม 2020) ดัชนี SET Index ปรับตัวลงเกือบ 3% จากความกังวลผลกระทบของ Coronavirus ที่มีต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่มาเยือนไทย นักวิเคราะห์รายงานว่า การระงับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Group Tour น่าจะมีผลต่อการท่องเที่ยวประมาณ 3-4 เดือน และคาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากที่คาดไว้เดิมประมาณ 1.5-2 ล้านคน
มุมมองการลงทุน
เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Coronavirus ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดทุน อย่างไรก็ดี การที่ทางการจีนและรัฐบาลหลายประเทศร่วมมือกันออกมาตรการเข้มงวดเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ นับว่ามีความ “เข้มข้นและรวดเร็ว” กว่าครั้งที่เกิด SARS มาก ทั้งนี้ บลจ. พรินซิเพิล มองว่า แม้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว แต่การปรับตัวลงของ SET Index เกือบ 3% ก็น่าจะเกิดจากความกังวลที่มากเกินไปของนักลงทุน ถ้าจำกันได้ ตอนที่มีความกังวลเรื่อง สหรัฐฯกับอิหร่าน ช่วงต้นเดือนมกราคม SET Index ก็ปรับลงแรง ก่อนจะฟื้นตัวได้ในระยะสั้น
บลจ. พรินซิเพิล ขอแนะนำให้ผู้ลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ควรตกใจ เพราะมีหลายเหตุการณ์ในอดีตที่ความตกใจกลัว (Fear) ทำให้ตลาดหุ้นลงแรง มีหุ้นหลายตัวที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์นั้นโดนขายไปด้วย สถานการณ์แบบนี้จึงน่าจะเป็น “โอกาส” การเข้าลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มตลาดเอเชียแปซิฟิก ที่นักลงทุนจะได้ซื้อของราคาถูกกว่าเดิม สำหรับหุ้นไทย บลจ. พรินซิเพิล ยังคงมีมุมมองเพิ่มน้าหนักเมื่อ SET Index ปรับตัวลงในระดับต่ำกว่า 1550 - 1600 จุด
อ่านบทความฉบับเต็มที่นี่
อ้างอิง
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1410
https://gisanddata.maps.arcgis.com/apps/opsdashboard/index.html#/bda759…
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นคำเสนอหรือการเชิญชวนให้บุคคลใดทำการซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนาเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารนี้แต่อย่างใด / แม้บริษัทจัดการจะได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวมีความถูกต้อง และตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดทำเอกสารนี้ บริษัทจัดการและพนักงานของบริษัทจัดการไม่มีความรับผิดและจะไม่รับผิดสาหรับความผิดพลาดของข้อมูลใด ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม รวมทั้งจะไม่รับผิดสำหรับการกระทาใด ๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความเห็นหรือข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในเอกสารฉบับนี้ บริษัทจัดการไม่ได้ให้คำรับรองหรือรับประกันไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายเกี่ยวกับความถูกต้อง แม่นยำ น่าเชื่อถือ ทันต่อเหตุการณ์หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น / บริษัทจัดการขอปฏิเสธความรับผิดทั้งปวงที่เกิดหรืออาจเกิดขึ้นในทุกกรณี ทั้งนี้ความเห็นบทวิเคราะห์หรือการคาดคะเนต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือผลการดำเนินงานในอนาคตที่ปรากฏในเอกสารนี้ ไม่ถือเป็นเครื่องยืนยัน และอาจแตกต่างจากเหตุการณ์หรือผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงได้ / สำหรับนักลงทุนที่ต้องการทราบข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมหรือรับหนังสือชี้ชวน สามารถติดต่อบริษัทจัดการหรือผู้ดำเนินการขายที่ท่านให้บริการ