CIO’s View: พฤษภาคม 2566 - Patience is a virtue
31 พฤษภาคม 2566
ในช่วงที่ผ่านมาประธานเฟดหลายคนได้ออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนมิถุนายนและทำให้ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะยังดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อเนื่องนั้นเพิ่มขึ้นตามความเห็นโทน Hawkish โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 64.2% จากเดิมที่ 26.8% ในเดือนที่ผ่านมา และโอกาสที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมปรับลดลงมาอยู่ที่ 35.8% จากเดิม 62.2%
Chart: CME FedWatch Tool for 14 June 2023 FOMC meeting
Source: T CME FedWatch Tool, CME Group Inc., as of 27 May 2023.
นอกจากนี้เรายังคงเห็นความเข้มงวดในตลาดสินเชื่อ โดยที่ผ่านมาเราได้ติดตามตัวเลขผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ (Senior Loan Officer Survey) มาระยะหนึ่ง โดยตัวเลขล่าสุดยังคงสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารสหรัฐฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม (Commercial and Industrial Loans: C&I loans) ให้แก่บริษัทขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง และยังเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Commercial Real Estate Loans: CRE loans) ที่มีทรัพย์สินหลักเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่รวมกันหลายครอบครัว (Multifamily Residential Structures) เช่นกัน
Chart: Fed Senior Loan Officer Survey – net percentage of tightening loan
standards some categories
Source: Board of Governors of the Federal Reserve System (US), FRED, Federal Reserve Bank of St. Louis, as of 8 May 2023.
ด้านประเด็นเพดานหนี้ (Debt Ceiling) ของสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการประเมินเบื้องต้นว่ารัฐบาลจะมีเงินชำระหนี้ไม่เพียงพอในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามในสุดสัปดาห์ที่ผ่านประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและแกนนำพรรคริพับลิกันได้ประกาศบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ไปจนถึงปี 2025 โดยมีการตรึงงบประมาณที่ไม่ใช่งบกลาโหมไปอีก 2 ปี ในขณะที่ยอมให้การใช้จ่ายของเพนตากอนเป็นไปตามแผนของประธานาธิบดีไบเดน อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะได้รับแรงต่อต้านจากนักกฎหมายของทั้งฝั่งริพับลิกัน และเดโมแครต ทำให้เรามองว่ายังคงมีความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะผิดนัดชำระหนี้และส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดทุนได้อยู่
ทั้งนี้เรามองว่าตลาดหุ้นในภาพรวมยังคงอยู่ในภาวะ slightly bearish โดยมีอัตราผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง (risk reward) ที่ไม่น่าสนใจ จากความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น Valuation ของตลาดหุ้นที่แพง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และสภาพคล่องที่ตึงตัว อย่างไรก็ตามผลตอบแทนของตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ จะถูกแก้ไขได้ในเร็วๆนี้ ทั้งนี้เรามองว่าประเด็นดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอาจส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ประกอบกับข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ นั้นยังไม่ผ่านการพิจารณาของสองสภาฯ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังในการลงทุนโดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยนักลงทุนควรระมัดระวังที่จะไม่มีการลงทุนในหุ้นมากเกินไป โดยเราแนะนำให้เพิ่มโอกาสการลงทุนที่ดีกว่าผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสม กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม (PRINCIPAL GFIXED) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีกระบวนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ทีมการลงทุนที่แข็งแกร่งมากด้วยประสบการณ์ พร้อมทั้งมีประวัติของผลการดําเนินงาน (track record) ที่ยาวนาน และโดดเด่น
Chart: US recession probabilities have risen to very high-level indicating recession later in the year
Source: Global Asset Allocation Viewpoints 2Q2023, Principal Asset Allocation. Data as of 31 March 2023.
Chart: US equities screen as very expensive compared to other markets
Source: FactSet, Bloomberg, MSCI, Global Asset Allocation Viewpoints 2Q2023, Principal Asset Allocation.
Data as of 31 March 2023.
Chart: Elevated bond yields finally present an investment opportunity
Source: Global Asset Allocation Viewpoints 2Q2023, Principal Asset Allocation. Data as of 31 March 2023.
กองทุนแนะนำ
อ่าน CIO’s View: พฤษภาคม 2566 - Patience is a virtue
