Principal Update: CIO's View August 2021
Principal Update: CIO's View August 2021
โดย คุณศุภกร ตุลยธัญ,CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน
Source: https://www.bangkokbanksme.com/en/vietnam-asian-economic-tiger
สวัสดีครับ สำหรับเดือนนี้เรามาอัพเดตสถานการณ์ Covid-19 และปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจเวียดนาม ล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในประเทศเวียดนามก็มีความรุนแรงไม่แพ้กับบ้านเรา โดยจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังเพิ่มขึ้นในระดับสูงที่ 7,878 รายต่อวัน และมียอดผู้ติดเชื้อโดยรวมอยู่ที่ 150,060 ราย สำหรับจำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 1 เข็มคิดเป็นอัตรา 5.49% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ในขณะที่จำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มมีอยู่เพียงแค่ 0.6%ของประชากร จึงนับว่าเป็นประเด็นเร่งด่วนสำหรับประเทศเวียดนามที่จะต้องรีบควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้ได้เร็วที่สุด โดยล่าสุดทางรัฐบาลเวียดนามก็ได้มีการประกาศขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์สำหรับนครโฮจิมินห์ (HCMC) และอีก 18 พื้นที่ต่อไปอีกสองสัปดาห์จนถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ของเมืองดานัง (Danang) และกรุงฮานอย (Hanoi) ก็อาจจะมีการประกาศขยายระยะเวลาด้วยเช่นกันภายหลังจากนี้ ในส่วนของมาตรการด้านการจัดหาวัคซีน ทางการเวียดนามก็ได้มีการตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 50% ของประชาการภายในสิ้นปี และ 70% ภายในสิ้นไตรมาสแรกของปี 2022 โดยปัจจุบันทางรัฐบาลได้มีการจัดหาวัคซีนจำนวน 38.9 ล้านโดสผ่านโครงการ COVAX 30 ล้านโดสจากบริษัท AstraZeneca และ 31 ล้านโดสจากบริษัท Pfizer และ BioNTech โดยวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสจะทยอยรับในช่วงที่เหลือของปี 2021
อย่างไรก็ตามมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามก็ยังมีความน่าสนใจอยู่เป็นอย่างมาก โดยอ้างอิงถึงองค์กร International Monetary Fund (IMF) ที่ได้มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามสำหรับปี 2022-2026 เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่อัตราเฉลี่ย 6.84% ต่อปี ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนและสูงที่สุดในทวีปเอเชีย แต่แน่นอนว่าการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ระลอกนี้ จะทำให้อัตราการเติบโตของเวียดนามนั้นลดลง
โดยล่าสุดบรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกได้มีการปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามของปี 2021 ลดลงเหลือ 6.55%(ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม) จากระดับ 6.7% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน และจาก 7.3% เมื่อย้อนกลับไปสามเดือนที่แล้ว ณ สิ้นเดือนเมษายน ซึ่งก็สอดคล้องกับภาพของตลาดหุ้นเวียดนามที่มีการปรับฐานลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยดัชนี Vietnam Ho Chi Minh Stock Index หรือที่รู้จักกันสั้นๆว่าดัชนี VNINDEX ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,420 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม และได้ปรับลงไปทำจุดต่ำสุดของเดือนที่ 1,243 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม
โดย บลจ.พรินซิเพิล ประเมินว่าไตรมาสที่ 3 นี้เป็นจังหวะที่ดีในการสะสมหุ้นเวียดนามในลักษณะของการทำการเฉลี่ยซื้อแบบ DCA เพราะหากว่าทางเวียดนามสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดรอบนี้ได้สำเร็จ ตลาดหุ้นเวียดนามจะมีความพร้อมในการปรับตัวขึ้นเพื่อตอบรับกับปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งในหลากหลายด้าน ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในข้างต้น ก็ยังมีปัจจัยด้านอื่นอีกหลายด้านที่เอื้อต่อภาพเศรษฐกิจและตลาดทุนของประเทศเวียดนาม เช่น ภาคการผลิตที่เฟื่องฟู (Manufacturing Boom) และเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment) ซึ่งเป็นปัจจัยขั้นต้นที่ได้อานิสงส์มาจากการโยกย้ายห่วงโซ่การผลิตจากจีน (Supply Chain Relocation from China)
กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (PRINCIPAL VNEQ-A) ผลการดำเนินงานโดดเด่น อันดับ 1 ปี 2564 (YTD-กรกฎาคม 2564) 42.95% และอันดับ 1 สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ที่ 96.84% สำหรับกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย**
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ https://www.principal.th/th/principal/VNEQ-A